วานนี้ (18 ก.ย.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 จัดการกับผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เพราะปัจจุบันมีการใช้ มาตรา44 ดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ดินส.ป.ก.จำนวน 500 ไร่ขึ้นไป ซึ่งทั้งประเทศมีเพียง 20 แปลงเท่านั้น จึงอยากให้ดำเนินการกับแปลงเล็กแปลงน้อย และลงโทษอย่างจริงจัง โดยเฉพาะแปลงที่ครอบครองโดยนักการเมือง ข้าราชการผู้ใหญ่ ผู้มีอิทธิพลที่ครอบครองไม่ถึง 500 ไร่ รวมถึงที่ดินส.ป.ก.หมู่ 2 บ้านผาเบียด ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ จำนวน 35 ไร่ 3 งาน ของ นางสายตา ประเสริฐสาร ที่นายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ไปยื่น ส.ค.1 เพื่อแสดงสิทธิครอบครองในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 20 ไร่ โดยอ้างส.ค.1 เลขที่ 48 ซึ่งเมื่อตรวจสอบปรากฏว่าเป็นชื่อของนายเบี้ยว เปรมประยูร อยู่ที่หมู่ 4 บ้านป่าว่าน ซึ่งเป็นคนละพื้นที่
"ผมไม่ทราบว่าไปตกอยู่ในมือนายเจริญได้อย่างไร และพิกัดที่แสดง ก็ไม่ตรงกับแปลงที่เป็นส.ป.ก.เลย มั่นใจว่าส.ค.1 ที่นำมากล่าวอ้าง ต้องบินมาแน่นอน"
นายวิลาศ กล่าวด้วยว่า ตนอยากจะเร่งรัดให้จัดการกับกรมการท่องเที่ยว ส.ป.ก. และผอ.สวนรุกขชาติ น้ำผุดทับลาว โดยเฉพาะกรมท่องเที่ยว ที่จัดงบประมาณไม่น่าจะตรงกับภาระกิจของกรม คือ มีการจัดงบ 36 ล้าน โดยมีการสร้างรีสอร์ต 8 หลัง ในสวนรุกขชาติโดยให้มูลนิธิน้ำผุดทับลาว ซึ่งนายเจริญ เป็นผู้ก่อตั้งจดทะเบียน เป็นคนจัดการเก็บเงิน รวมทั้งจัดงบสร้างถนนเข้าบ้านพักของนายเจริญ ทั้งที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ และส.ป.ก. ไม่สามารถทำถนนได้ ไม่ทราบว่ามีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งยังจัดงบปรับภูมิทัศน์ ตัดต้นไม้มโหฬาร จนไม่รู้ว่าต้นไม้ทั้งหมดไปอยู่ในการครอบครองของใคร ส่วนหน่วยงานส.ป.ก.ต้องรีบตรวจสอบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ของนางสายตา หรือ เป็นที่ ส.ค.1 หากเป็นที่ของส.ป.ก. จะต้องรีบดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และดำเนินคดีกับผู้กระทำดังกล่าว แต่หากเป็นส.ค.1 และเป็นของนายเจริญอย่างถูกต้อง จะต้องมีการแจ้งแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มากว่า 19 ปีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้ยื่นเรื่องนี้ให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจรวจสอบมาเกือบครบปีแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย
"ผมไม่ทราบว่าไปตกอยู่ในมือนายเจริญได้อย่างไร และพิกัดที่แสดง ก็ไม่ตรงกับแปลงที่เป็นส.ป.ก.เลย มั่นใจว่าส.ค.1 ที่นำมากล่าวอ้าง ต้องบินมาแน่นอน"
นายวิลาศ กล่าวด้วยว่า ตนอยากจะเร่งรัดให้จัดการกับกรมการท่องเที่ยว ส.ป.ก. และผอ.สวนรุกขชาติ น้ำผุดทับลาว โดยเฉพาะกรมท่องเที่ยว ที่จัดงบประมาณไม่น่าจะตรงกับภาระกิจของกรม คือ มีการจัดงบ 36 ล้าน โดยมีการสร้างรีสอร์ต 8 หลัง ในสวนรุกขชาติโดยให้มูลนิธิน้ำผุดทับลาว ซึ่งนายเจริญ เป็นผู้ก่อตั้งจดทะเบียน เป็นคนจัดการเก็บเงิน รวมทั้งจัดงบสร้างถนนเข้าบ้านพักของนายเจริญ ทั้งที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ และส.ป.ก. ไม่สามารถทำถนนได้ ไม่ทราบว่ามีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งยังจัดงบปรับภูมิทัศน์ ตัดต้นไม้มโหฬาร จนไม่รู้ว่าต้นไม้ทั้งหมดไปอยู่ในการครอบครองของใคร ส่วนหน่วยงานส.ป.ก.ต้องรีบตรวจสอบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ของนางสายตา หรือ เป็นที่ ส.ค.1 หากเป็นที่ของส.ป.ก. จะต้องรีบดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และดำเนินคดีกับผู้กระทำดังกล่าว แต่หากเป็นส.ค.1 และเป็นของนายเจริญอย่างถูกต้อง จะต้องมีการแจ้งแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มากว่า 19 ปีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้ยื่นเรื่องนี้ให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจรวจสอบมาเกือบครบปีแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย