จันทบุรี - กรมเจ้าท่า ล็อกเรือประมงพื้นบ้าน จ.จันทบุรี กว่า 10 ลำ หลังตกสำรวจตามนโยบาย คสช. ทำให้ชาวประมงบางรายต้องเลิกทำอาชีพประมงที่หาเลี้ยงครอบครัวมากว่า 27 ปี
วันนี้ (7 ต.ค.) ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เดินทางขึ้นเรือประมงครั้งสุดท้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่า เข้าดำเนินการล็อกเรือประมง และจะไม่สามารถออกเรือประกอบอาชีพได้อีกจนกว่าจะมีการสำรวจ และดำเนินเรื่องให้ถูกกฎหมาย
โดยการดำเนินการครั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอท่าใหม่ และอำเภอแหลมสิงห์ ได้ตกสำรวจจำนวนกว่า 10 ลำ และที่ผ่านมา ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เคยเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาเรือประมงตกสำรวจ อันเนื่องมาจากความเข้าใจไม่ตรงกัน โดยจะขอให้ขยายเวลาลงทะเบียน ป้องกันการถูกล็อกเรือ ซึ่งการดำเนินการครั้งนั้นก็ไม่เป็นผล เนื่องมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เนื่องมาจาก IUU ได้เร่งบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดระเบียบเรือประมง และปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานประมง และการทำประมงผิดกฎหมายหลายรูปแบบ จึงต้องลงมาดำเนินการดังกล่าวอย่างเข้มงวด
นางอุไร สัจจาสัย อายุ 53 ปี ชาวประมงพื้นที่บ้านในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า จากการประกอบอาชีพประมงมากว่า 27 ปี ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาถึงจุดที่เรือที่ใช้ประกอบอาชีพต้องถูกล็อก ทั้งๆ ที่ผ่าน มามีการดำเนินการทุกอย่าง ทั้งขออนุญาต ทั้งเดินเรื่อง แต่ในครั้งนี้เมื่อถึงเวลาสำรวจเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรือของครอบครัวล่มอยู่ในน้ำ เมื่อกู้ขึ้นมาแล้วกลับถูกแจ้งว่าไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ เนื่องจากตกสำรวจ ทำให้อาชีพประมงที่ทำมากว่า 27 ปี ต้องยุติลง
ขณะที่ น.ส.ณอาภา สัจจาสัย ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูเอกสารต่าง ๆของเรือ และหนังสือที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานเจ้าท่า ที่่ให้ไปดำเนินการติดต่อเรื่อง ซึ่งเอกสารได้ระบุวันที่ 2 กันยายน 2558 และให้เจ้าของเรือดำเนินการติดต่อเพื่อแสดงตนภายในวันที่ 4 กันยายน 2558 ก่อนเวลา 12.00 น.แต่หนังสือฉบับดังกล่าวกลับถูกส่งมาถึงมือเจ้าของเรือในช่วงบ่าย เมื่อรีบไปดำเนินการติดต่อแล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบคือ เลยระยะเวลาที่กำหนด
นายบุญธรรม เจริญกล้า นายกสมาคมประมงท่าใหม่ และเป็นผู้ที่ถูกล็อกเรือในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากเรือประมงบางลำเข้าแจ้งแสดงตนหลังจากที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายประกาศไม่ทัน และเกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน และบางรายก็ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร
ส่วนหลังจากนี้คงจะต้องพยายามเข้าดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้กลับมาประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ เรือที่ถูกล็อกจะไม่สามารถออกเดินเรือได้จนกว่าจะปรับปรุงเรือ และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง โดยมาตรการนี้จะช่วยให้เรือไม่ถูกกล่าวหาเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งเจ้าของเรือคงจะต้องหาวิธีการ หรือประกอบอาชีพอื่นในระหว่างรอเปิดขอใบอนุญาตรอบใหม่ในปี 2560