กระบี่ - ชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดกระบี่ นำเรือนับ 100 ลำ แห่จับกุ้งทะเล ที่บริเวณปากแม่น้ำกระบี่ อย่างคึกคัก ระบุปีนี้กุ้งมาเร็วกว่าทุกปี สร้างรายได้/คน กว่า 3,000 บาทต่อวัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเจริญชัย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ (ใบไม้เขียว) ว่า มีชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ ได้นำเรือหางยาวกว่า 100 ลำ ออกจับกุ้งทะเล ที่บริเวณปากแม่น้ำกระบี่ ต.คลองประสงค์ อ.เมือง หลังพบกุ้งทะเลโผล่กลางทะเลจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวประมงพื้นบ้านแห่จับกุ้งทะเลกันอย่างคึกคัก โดยบางรายใช้วิธีจับด้วยการเหวี่ยงแห บางรายใช้อวนจับได้กุ้งหัวเรียวติดแห และอวนขึ้นมาจำนวนมาก บางรายจับได้วันละกว่า 100-300 กิโลกรัม
นายด่อรัก ลูกเล็ก ชาวประมงพื้นบ้าน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.3 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า สำหรับกุ้งหัวเรียว จะมีชุกชุมในบริเวณปากแม่น้ำกระบี่ ในช่วงประมาณเดือนกันยายน-พฤศจิกายนของทุกปี แต่ในปีนี้กุ้งมาเร็วกว่าทุกปี โดยเริ่มมีตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม พบกุ้งโผล่ติดต่อกันประมาณ 1-2 วันแล้ว ชาวประมงใช้ทั้งแห และอวนลอยในการจับกุ้ง ซึ่งวันนี้ตนจับกุ้งหัวเรียวได้ประมาณกว่า 10 กิโลกรัม นำไปขายในตลาดในราคากิโลกรัมละ 150 บาท มีรายได้ประมาณ 2,000-3,000 บาท
ด้านนายสมยศ กุลพ่อ อายุ 20 ปี ชาวประมงพื้นบ้านอีกราย กล่าวว่า ตั้งแต่ทางกรมประมงได้มีการปิดอ่าวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทำให้สัตว์ทะเล หลายชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทำให้ชาวประมงมีรายได้เป็นกอบเป็นกำในการนำไปจุนเจือเลี้ยงดูครอบครัว โดยกุ้งหัวเรียว ที่โผล่กลางแม่น้ำกระบี่ ชาวประมงสามารถจับได้จนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยบางครั้งในช่วงที่กุ้งมีชุกชุมเหวี่ยงแหครั้งเดียวจับกุ้งได้เป็น 100 กิโลกรัมก็มี
นายเจริญชัย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ (ใบไม้เขียว) กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกันมาทุกปี โดยกุ้งทะเลจะพบชุกชุมมากในช่วงระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนทุกปี และที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับสมาคมชาวประมง ร่วมเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ให้ความร่วมมือในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ ในช่วงฤดูปลามีไข่วางไข่ประจำทุกปี และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขยายระยะเวลาปิดอ่าวออกไปจาก 2 เดือน เป็น 3 เดือน ส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำมีเวลาเติบโต และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และมีแห่งเดียวในจังหวัดกระบี่