นครศรีธรรมราช - ชาวประมงพื้นบ้านปากนคร ที่ใช้เครื่องมือชนิดอวนลากข้าง อวนรุน และลอบตัวหนอน รวมตัวเรียกร้องถูกกีดกันน่านน้ำทำกิน โอดทำไมชาวประมงแหลมตะลุมพุกยังทำได้ จี้ให้ทางการรีบหาทางการแก้ไขปัญหาก่อนบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
บ่ายวันนี้ (25 ก.ค.) ที่ศาลาริมน้ำปากน้ำปากนคร ม.1 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ชาวประมงพื้นบ้านบริเวณปากอ่าวปากนคร และอ่าวแหลมตะลุมพุก ที่มีอุปกรณ์ประมงชนิดอวนลากข้าง อวนรุน และลอบตัวหนอน หรืออ้ายโง่ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บริเวณปากอ่าวปากนคร ต.ปากนคร ได้นำเรือประมงมาจอดบริเวณศาลาท่าน้ำปากนคร และรวมตัวหารือเพื่อกำหนดมาตรการในการเรียกร้องให้ภาครัฐเข้าไปแก้ปัญหาให้ เนื่องจากไม่สามารถทำประมงได้ โดยเฉพาะในเขตของแหลมตะลุมพุก เนื่องจากถูกปิดกั้นพื้นที่อ้างว่าเป็นเขตอนุรักษ์
ทั้งนี้ หากเข้าไปทำประมงก็จะถูกเจ้าหน้าที่ประมง เจ้าหน้าที่ อบต.แหลมตะลุมพุก และฝ่ายปกครองท้องที่ไล่จับกุม โดยอ้างว่า เป็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขณะเดียว กลับปล่อยให้เรือประมงที่มีภูมิลำเนาในแหลมตะลุมพุก ทำประมงได้ตามปกติ โดยไม่มีการจับกุมแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ชาวประมงพื้นบ้านยังเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาเขตการทำประมงของเรือขนาดเล็กที่มีความยาวแค่ 4-5 เมตร ไม่สามารถออกไปนอกเขต 4.5 ไมล์ทะเลได้ และโดยเฉพาะเครื่องมือทำประมงที่เรียกว่า ลอบตัวหนอน หรืออ้ายโง่ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ชัดเจนว่าไม่ผิดกฎหมาย กลับถูกจับกุมอย่างไม่ถูกต้อง หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาก็อาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะมีการปิดกั้นทะเลเป็นสิทธิของชุมชน ซึ่งแท้จริงควรเป็นสมบัติสาธารณะในการทำกิน
นายสมศักดิ์ อนันตพืช นายกเทศมนตรีตำบลปากนคร เปิดเผยว่า ชาวประมงชายฝั่งขนาดเล็กกำลังเดือดร้อนจากหลายปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของการออกไปทำประมง ซึ่งขนาดเรือเล็กแบบนี้ไม่สามารถออกไปทำประมงห่างจากชายฝั่งมากกว่า 4.5 ไมล์ได้ เพราะเรือจะถูกคลื่นหนักจะจมได้ง่าย ขณะที่เครื่องมือก็ถูกตั้งแง่จับกุมจากฝ่ายราชการบางคน เจ้าหน้าที่ อบต.แหลมตะลุมพุก และฝ่ายปกครองท้องที่ รวมทั้งการจำกัดพื้นที่ทำประมงอย่างไม่ถูกต้อง
ขณะที่ นายเดชา เดโชชัย อายุ 63 ปี ชาวประมงชายฝั่งใช้อุปกรณ์ลอบตัวหนอน หรืออ้ายโง่ ระบุว่า เครื่องมือชนิดนี้ไม่ใช่เครื่องมือทำลายล้าง เป็นเครื่องมือที่วางหน้าดิน โดยมีการยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นเครื่องมือที่ผิดกฎหมาย ขนาดของตาลอบกว้างกว่ากฎหมายกำหนดด้วยซ้ำ แต่ไม่สามารถเข้าไปทำประมงในพื้นที่แหลมตะลุมพุกได้ เพราะจะถูกไล่ข่มขู่จับกุมอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงการปิดกั้นพื้นที่ให้ทำประมงเฉพาะคนแหลมตะลุมพุกได้ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากทะเลควรเป็นแหล่งทรัพยากรส่วนร่วมที่ชาวประมงใช้ทำกินได้ ทางการควรเร่งแก้ไขก่อนที่จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว