นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกชุมชนประมงแหลมตะลุมพุก และปากนคร เจรจาลดความขัดแย้ง หลังมีแนวโน้มเกิดการแย่งชิงทรัพยากร และพื้นที่ในการทำประมงในอ่าวแหลมตะลุมพุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมออกกวาดล้างการทำประมงผิดกฎหมาย
วันนี้ (1 ส.ค.) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกผู้นำชุมชนประมงชายฝั่งแหลมตะลุมพุก ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง และชุมชนปากนคร ตำบลปากนคร พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น เข้าร่วมหาเจรจาลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง โดยการประสานงานของ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ชุมชนทั้ง 2 แห่ง ที่อยู่คนละฝั่งของอ่าวปากนคร และอ่าวแหลมตะลุมพุก เริ่มมีความขัดแย้งจากการทำประมงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้เครื่องการทำประมงที่ผิดกฎหมายเข้าไปทำประมงในพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จนกระทั่งมีการรวมตัวเรียกร้องสิทธิในการทำประมงทางทะเล และมีแนวโน้มบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างชุมชนทั้งสอง
ขณะที่ นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง ในฐานะผู้นำชุมชนแหลมตะลุมพุก ระบุว่า ข้อเท็จจริงคือ การกวาดจับเรือประมงชายฝั่งประเภทใช้อุปกรณ์คราดหอย เนื่องจากเป็นการทำประมงที่ทำลายล้าง และทำลายวิถีชีวิตของอาชีพการงมหอยด้วยมือเปล่าในอ่าวแหลมตะลุมพุกที่มีมาช้านาน รวมทั้งการใช้เครื่องมือชนิดลอบตัวหนอน เป็นเครื่องมือที่ทำลายล้างทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างรุนแรง และยังกีดขวางการทำประมงชนิดอวนลอยของชุมชนแหลมตะลุมพุก
ด้านนายสุกิจ รัตนวินิจกุล ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า กรมประมงอยู่ในระหว่างการศึกษาพื้นที่ทำประมงชายฝั่งซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าต้องทำประมงนอกเขต 5.3 กิโลเมตรจากชายฝังส่วนลอบตัวหนอน หรือลอบรถไฟ หรืออ้ายโง่ อยู่ในระหว่างการเตรียมการออกประกาศเป็นเครื่องมือการทำประมงที่ผิดกฎหมายในอีกราว 2 เดือนข้างหน้า เมื่อถึงเวลานั้น ชาวประมงที่ใช้เครื่องมือชนิดนี้จะต้องถูกดำเนินคดีหากมีการใช้ทำประมง ขณะที่เรืออวนลากข้าง เรืออวนรุน เรือคราดหอยเป็นเครื่องมือที่ผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ในส่วนของเครื่องมือการทำประมงนั้น ทางประมงจังหวัดจะเข้าไปดำเนินการอย่างเข้มงวด ผู้ทำประมงเองต้องเคารพกฎหมาย ขณะที่ความขัดแย้งของชุมชนทั้งสองฝั่งนั้นสามารถตกลงกันได้ โดยเข้าไปจัดการเรื่องพื้นที่ทำประมงให้ชัดเจน และจะมีการจัดการให้มีความเข้มงวดให้มากขึ้นทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการกระทำผิดกฎหมายการทำประมงเมื่อถูกจับกุมจะต้องยอมรับ
