ฉะเชิงเทรา - เกิดเหตุรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนกันบริเวณสามแยกสตาร์ไลท์ ฉะเชิงเทรา ทำหญิงท้องได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกสันหลังเคลื่อน ส่วนคนขับติดภายใน ตร.รอสอบปากคำคนขับรถทั้ง 2 คัน หลังต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าเห็นสัญญาณไฟเขียวเหมือนกัน
เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (4 ต.ค.) ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุรถบรรทุกขนาดใหญ่พุ่งชนกันจนเกิดเสียงดังสนั่น บริเวณสามแยกสัญญาณไฟสตาร์ไลท์ บนถนนสาย 304 มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา (สุวินทวงศ์) ตัดถนนสายเลี่ยงเมืองบางน้ำเปรี้ยว-ฉะเชิงเทรา ม.8 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถ จำนวน 2 ราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกพ่วงยาว 22 ล้อ หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-0932 ตาก ทะเบียนหางพ่วง 70-0931 ตาก สภาพถูกรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ แบบ 2 ตอน หมายเลขทะเบียนหัวลาก 82-7759 ลพบุรี ทะเบียนหางพ่วง 82-7760 ลพบุรี พุ่งชนที่บริเวณด้านข้างซ้ายของส่วนหัวลาก จนทำให้ตัวรถถูกแรงกระแทกลอยขึ้นไปอยู่บนเกาะกลางถนน
ภายในรถยังพบหญิงตั้งครรภ์ติดอยู่ภายใน 1 ราย บริเวณเบาะที่นั่งข้างซ้าย ทราบชื่อคือ นางอริสรา กลางนอก อายุ 48 ปี ชาว อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ฉะเชิงเทรา ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธรในทันที เนื่องจากมีอาการหลังหักจากกระดูกสันหลังเคลื่อนจนไม่สามารถขยับตัวได้ ส่วนคนขับคือ นายไพฑูรย์ ปทุมสูตร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เหนือคิ้วด้านขวายังมีบาดแผลเป็นทางยาวประมาณ 4 ซม.
ส่วนรถคันที่พุ่งชนมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน 1 ราย คือ นายประสิทธิ์ อินถนอม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.4 ต.หนองเทพ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือออกมาจากซากรถ
จากการสอบสวน นายไพฑูรย์ คนขับรถพ่วงคันที่ถูกชนทราบว่า ได้ขับรถเพื่อนำข้าวโพดจาก จ.ตาก ไปส่งในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และในช่วงขากลับกำลังจะไปรับกระเบื้องจาก จ.สระบุรี เพื่อเดินทางกลับไปส่งยัง จ.ตาก แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นสัญญาณไฟเขียวให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองมุ่งหน้า อ.บางน้ำเปรี้ยว แต่ขณะกำลังจะขับเลี้ยวเข้าสู่ถนนสายเลี่ยงเมืองนั้น รถคู่กรณีซึ่งขับมาทางตรงด้วยความเร็วสูงได้พุ่งเข้าชนอย่างจังจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่ นายประสิทธิ์ คนขับรถพ่วง 18 ล้อคันก่อเหตุ กล่าวว่า ได้ขับรถบรรทุกน้ำตาล น้ำหนักรวม 30 ตัน มาจาก จ.สระบุรี เพื่อจะนำไปส่งยังในเขต จ.ชลบุรี แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นสัญญาณไฟเขียวจึงขับตรงมาทางแยกด้วยความเร็วเพียง 60 กม.ต่อ ชม. แต่เนื่องจากรถมีน้ำหนักมากจึงทำให้เคลื่อนตัวช้า และเมื่อมีรถอีกคันขับตัดหน้าจึงเบรกไม่อยู่กระทั่งเกิดการพุ่งชนกันดังกล่าว
เบื้องต้น ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายให้การว่า เห็นสัญญาณไฟเขียวผ่านแยกทั้งคู่ จึงยังไม่ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้กระทำผิด จึงต้องหาพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม และรอการสอบสวนปากคำอย่างละเอียด จึงจะดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย


