ฉะเชิงเทรา - เปิดใจหนุ่มช่างติดตั้งกันสาดบนกลางยอดโดมของโรงสีรอดตายราวปาฏิหาริย์ ขณะเกิดเหตุตัวอาคารโรงสีถูกลมพายุพัดพังถล่มครืนลงมาทั้งหลัง หล่นจากความสูงถึง 40 เมตร เผยเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และคิดว่าคงไม่รอดชีวิตแล้ว ขณะเพื่อนคนงานในที่สูงอีกรายอาการสาหัส
วันนี้ (27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม นายเกียรติศักดิ์ สีหาวงษ์ อายุ 20 ปี ผู้รอดตายจากเหตุการณ์โรงสีพังถล่ม ในระหว่างถูกนำตัวส่งมารักษาตัวยัง รพ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะเกิดเหตุอาคารโรงสีพังถล่มนั้น ตน พร้อมด้วย นายสมจิตร เครือดี อายุ 28 ปี กำลังทำงานติดแผ่นกันสาดอยู่ที่ด้านบนโดมหลังคาของโรงสีที่ความสูงประมาณ 40 เมตร โดยลมพายุได้พัดเข้ามาอย่างรวดเร็วมาก จนหลังตาพังถล่มลงมายังที่พื้นด้านล่างภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที จนตนคิดอยู่ในใจว่าคงไม่รอดชีวิตแล้ว
แต่โชคดีที่ตนเอง และเพื่อนได้คาดเซฟตี้ไว้จึงรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์ และได้รับบาดเจ็บเพียงต้นขาซ้ายเคล็ดเท่านั้น โดยแพทย์ได้ให้นอนพักรักษาตัวอยู่ภายใน รพ.บางน้ำเปรี้ยว ส่วน นายสมจิตร นั้นข้อต่อขาซ้ายหักเนื่องจากได้ปลดสายรัดเข็มขัดบางจุดออกในขณะทำงาน ถูกนำตัวส่งต่อไปยัง รพ.พุทธโสธร (รพ.เมืองฉะเชิงเทรา)
ส่วนคนงานคนอื่นๆ นั้นมีหน้าที่มุงหลังคาได้ลงมาจากหลังคากันจนหมดแล้ว เนื่องจากฝนเริ่มตก และได้ลงมาเก็บของอยู่ที่ด้านล่าง ในขณะเกิดเหตุตัวอาคารถล่มลงมาพวกเขาจึงได้พากันวิ่งหนีไปคนละทิศทาง โดยที่ นายวานิตย์ สีน้ำเงิน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.10 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ นั้นวิ่งหลบหนีได้ไม่ทันจึงถูกโครงเหล็กของตัวอาคารลงมาล้มทับศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ นายเกียรติศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนที่เหลือ คือ น.ส.กนก แก้วเขียว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ต้นขาซ้ายหัก ถูกส่งต่อไปรักษาตัวยัง รพ.พุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) นายวิศณุ จำเริญเนา อายุ 27 ปี แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว นายชิต (ชาวลาว) อายุ 25 ปี นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว นายฮัท (ชาวพม่า) อายุ 25 ปี นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว
ส่วน น.ส.อนุสรา ผลอินทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.22 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายสุชีพ ครุฑวิเศษ อายุ 24 ปี นายสราวุท ประสาน อายุ 29 ปี ทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีบาดแผลตามลำตัว และใบหน้า แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
