ตราด - ชาวประมงพื้นบ้านอ่าวใหญ่ จ.ตราด แห่นำเรือออกตกแมงกะพรุนลอดช่อง ที่ลอยเข้ามาบริเวณหน้าทะเลอ่าวช่อ จนสามารถสร้างได้รายให้ไม่ต่ำกว่า 2 พันบาทต่อวัน โดยมีพ่อค้าจากพื้นที่ภาคใต้เข้ามาตั้งโต๊ะรับซื้อถึงปลายสะพาน ด้านนักวิชาการ สนง.ประมงตราด ยันแมงกะพรุนลอดช่อง มีอันตรายน้อยมากหากเทียบกับแมงกะพรุนไฟ หรือแมงกะพรุนกล่อง
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาเสี่ยโป้ง (ท่าลุงทิ) ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด พบชาวประมงพื้นบ้านอ่าวช่อ นำเรือกว่า 50 ลำ ออกตักแมงกะพรุนลอดช่อง ที่ลอยตัวอยู่บริเวณหน้าทะเลอ่าวช่อ และมีพ่อค้าคนกลางพากันตั้งโต๊ะรับซื้อแมงกะพรุนลอดช่อง ในราคาตัวละ 3 บาท
จากการสอบถาม นายบุญชู สุขสำราญ ชาวประมงพื้นที่บ้านตำบลอ่าวใหญ่ ทราบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีแมงกะพรุนลอดช่องเข้ามาลอยตัวบริเวณอ่าวช่อ แต่ในปีนี้กลับพบว่ามีแมงกะพรุนจำนวนมาก จนทำให้ชาวประมงบริเวณอ่าวช่อ ต้องหยุดทำประมงพื้นบ้านชั่วคราว และหันมาจับแมงกะพรุนลอดช่องขายแทน โดยมีกติกาห้ามไม่ให้ผู้ที่จับแมงกะพรุนใช้เครื่องมือลากอย่างเด็ดขาด เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรใต้ทะเล และอนุญาตให้ใช้เพียงสวิงตักเท่านั้น
โดยในช่วง 4 วันที่ผ่านมา มีพ่อค้าจากพื้นที่ภาคใต้เข้ามาตั้งโต๊ะรับซื้อที่บริเวณปลายสะพาน จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวประมงไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 บาท
ด้าน นายสมชาย ขาวเกลี้ยง ชาวประมงพื้นบ้านอ่าวช่อ กล่าวว่า หลังจากที่มีแมงกะพรุนลอดช่องลอยเข้ามาในอ่าวช่อ ตน และเพื่อนๆ ชาวประมงทั้งหมู่บ้าน และใกล้เคียงต่างพานำเรือออกมาจับแมงกะพรุนขาย ซึ่งเป็นวิถีของชาวประมงตามปกติ และสามารถสร้างเงินให้แก่ครอบครัวได้พอควร แต่หากเทียบกับการวางอวนจับปลา วางลอบจับปูแล้ว การจับแมงกะพรุนยังไม่สามารถทำรายได้เทียบเท่ากัน แต่ตนก็จะตักแมงกะพรุนขายจนกว่าจะหมดไปจากทะเลอ่าวช่อ
ส่วน นายชัชวาล วุฒิเมธี นักวิชาการ สำนักงานประมงจังหวัดตราด กล่าวว่า แมงกะพรุนลอดช่อง ที่พบบริเวณทะเลอ่าวช่อ คาดว่าน่าจะลอยมาตามกระแสน้ำจาก อ.คลองใหญ่ ประกอบกับสภาพแวดล้อม อุณหภูมิที่เหมาะสมจึงทำให้แมงกะพรุนลอดช่อง มีจำนวนมาก ส่วนอันตรายที่อาจจะเกิดจากแมงกะพรุนลอดช่องนั้นมีค่อนข้างน้อย หรือน้อยมาก หากเทียบกับแมงกะพรุนไฟ หรือแมงกะพรุนกล่อง แต่หากผู้ใดเกิดอาการแพ้ให้ใช้น้ำส้มสายชูล้างก็จะหายเป็นปกติ