ชาวนาระทม! เกี่ยวข้าวเน่าหลังจมน้ำอยู่นานร่วมเดือน

อุบลราชธา นี - ระดับแม่น้ำมูล จ.อุบลฯ ยังปรับตัวสูงขึ้น และไหลท่วมพื้นที่อยู่อาศัย รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรมในเขตอำเภอวารินชำราบ และอำเภอเมืองอุบลราชธานี ทำให้ชาวนาที่ต้นข้าวถูกน้ำท่วมมานานร่วมเดือน ต้องเกี่ยวข้าวที่เริ่มเน่ามาเก็บไว้กินและใช้เลี้ยงสัตว์ ทำให้นาข้าวเสียหายไปแล้วมูลค่าประมาณ 6 แสนบาท ขณะชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบที่ยังปักหลักอาศัยอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม วอนขอยาแก้น้ำกัดเท้าและแก้สัตว์พิษกัดต่อย

นายสมนึก เชยจันทา ชาวนาบ้านสวนสวรรค์ ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พายเรือใช้เคียวเกี่ยวข้าวจำนวน 4 ไร่เศษ ที่ถูกน้ำไหลท่วมสูงประมาณ 50 เมตร และข้าวกำลังเริ่มเน่า เพราะน้ำจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้ามาท่วมนานเกือบ 1 เดือน เพื่อนำไปคัดแยกเลือกเอาข้าวดีที่ยังพอนำไปหุงกินเองหรือนำไปใช้เลี้ยงสัตว์

โดยตำบลบุ่งไหม มีนาข้าวถูกแม่น้ำมูลเอ่อล้นไหลเข้าท่วมประมาณ 200 ไร่ คิดเป็นความเสียหายประมาณ 600,000 บาท

สำหรับแม่น้ำมูลซึ่งล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนท่าบังมั่งและเกตุแก้ว ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันน้ำไหลท่วมบ้านประชุมชนในชุมชนท่าบ้งมั่งเพิ่มอีก 6 ครอบครัว แต่ชาวบ้านยังอาศัยอยู่ในบ้าน เพราะระดับน้ำท่วมยังไม่สูง แต่บางส่วนเริ่มเก็บข้าวของเตรียมอพยพขึ้นไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่สำนักงานเทศบาลจัดให้รอบบ่อบำบัดน้ำเสียและหลังสำนักงานที่ดินอำเภอวารินชำราบ เพราะไม่แน่ใจกับระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ จึงเริ่มมีการมาสร้างเพิงพักและนำเชือกมากั้นจองที่ไว้ใช้อพยพเป็นจุดๆ

ขณะที่นางนงคราญ แก้วเสนา อายุ 53 ปี ที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่มีน้ำท่วมกับลูกสาวและหลานรวม 3 คน ต้องการรับความช่วยเหลือเป็นยาแก้น้ำกัดเท้า ยาทาแก้สัตว์พิษกัดต่อย เพราะมีทั้งงูและตะขาบที่หนีน้ำไปซุกซ่อนอยู่ในบ้านเรือน รวมทั้งขอกำลังพลมาช่วยยกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ทั้งโทรทัศน์ ตู้เย็น เพราะตัวเองและลูกยกไม่ไหว

สำหรับระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย วันนี้น้ำปรับตัวสูงขึ้นอีก 5 เซนติเมตร ทำให้มีระดับน้ำสูง 6.53 เมตร เกินระดับเตือนภัยและห่างจากตลิ่งเพียง 47 เซนติเมตร อัตราการไหลของน้ำมีความเร็ว 2,075 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที