ครู ค.เคาะประตูบ้านลงนาชวนชาวบ้านไปลงประชามติ

อุบลราชธานี - หลายอำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี จัดเดินรณรงค์เชิญชวนออกมาลงประชามติ ขณะที่ทีมครู ค. ลุยนาเคาะประตูบ้านเข้าถึงตัวชาวบ้านเพื่อเชิญชวนมาลงประชามติ ตั้งเป้าให้มีผู้มาออกเสียงร้อยละ 80

ที่สนามทุ่งคำน้ำแซบ เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา อาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ตำรวจ กว่า 4,000 คนร่วมเดินรณรงค์โดยแบ่งออกเป็น 4 เส้นทาง รวมระยะทางการเดินรณรงค์กว่า 6 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม

สำหรับอำเภอวารินชำราบ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 14 ตำบล 3 เทศบาล มีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติทั้งสิ้น 124,123 คน โดยอำเภอแห่งนี้ตั้งเป้าชักชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติร้อยละ 80 และให้มีบัตรเสียร้อยละ 2

วันเดียวกันที่อำเภอโขงเจียม ได้มีการจัดขบวนรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวอำเภอ โดยมีนักเรียน นักศึกษา ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครกว่า 3,000 คน เข้าร่วมเดินรณรงค์เชิญชวนไปลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมศกนี้เช่นกัน

ขณะที่หมู่บ้านผึ้งออก ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายธนวัฒน์ ไพศาลเจริญโชติ นายก อบต.โนนผึ้ง และนายจิระพัฒ ตามสีวัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน เดินเคาะประตูแจกเอกสารทำความเข้าใจการไปออกเสียงลงประชามติกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีกว่า 200 ครอบครัว ให้ทราบถึงวันลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมศกนี้

นอกจากการเดินเคาะประตูตามบ้านเรือนของประชาชนแล้ว กลุ่มครู ค.ที่มีหน้าที่เชิญชวนและสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในกระบวนการลงประชามติครั้งนี้ ยังได้ลงทุนไปตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านซึ่งบางส่วนอยู่ระหว่างการปักดำหว่านข้าว เพื่อให้ชาวบ้านในตำบลนี้พร้อมใจกันไปออกเสียงลงประชามติ ซึ่งทางตำบลตั้งเป้าให้มีผู้ไปออกเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และมีบัตรเสียไม่เกินร้อยละ 2

สำหรับตำบลโนนผึ้ง อ.วารินชำราบ มีหน่วยใช้ลงคะแนน 12 หน่วย มีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งสิ้น 6,539 คน และจากการสอบสวนชาวบ้านส่วนใหญ่ทราบว่า จะมีการลงประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในวันดังกล่าวแล้ว และส่วนใหญ่ระบุจะออกไปใช้สิทธิ เพราะคิดว่าการมีรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต