xs
xsm
sm
md
lg

ประธานชมรมเรือฯ ลั่นพร้อมให้ความร่วมมือ คสช.จัดระเบียบพื้นที่จอดเรือใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา เผยพร้อมให้ความร่วมมือ คสช.เต็มที่ ตามนโยบายการจัดระเบียบพื้นที่จอดเรือใหม่ เพียงร้องขอความเป็นธรรมให้พิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่เกิดผลกระทบมากนัก ระบุเรือท่องเที่ยวก็ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศเช่นกัน

จากกรณีที่ พ.อ.ภพอนันต์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบ.มทบ.14 นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าท่าภูมิภาค และเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพปัญหาการจัดระเบียบ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี โดยระบุว่า เป็นการลงพื้นที่จริงเพื่อดูสภาพก่อนจัดประชุมร่วมเพื่อหาแนวทางการจัดระเบียบใหม่ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.

โดยเฉพาะกรณีของการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะที่มีการนำเรือท่องเที่ยวจำนวนหลายร้อยลำมาจอดพักไว้ ส่งผลให้การใช้ประโยชน์ไม่หลากหลาย โดยชี้ว่าเป็นการใช้งานเฉพาะกลุ่มทั้งๆ ที่บริเวณท่าเทียบเรือมีปัญหาการจราจรที่คับคั่งจากการรับส่งนักท่องเที่ยวของรถบัสโดยสารจำนวนหลายหมื่นคนต่อวัน แต่กลับไม่มีที่จอดรถได้อย่างเพียงพอ

อีกทั้งสภาพของลานสาธารณะในพื้นที่กว่า 17 ไร่ มีสภาพไม่สวยงาม จึงต้องเร่งแก้ไขเพื่อปรับแนวทางการจัดการใหม่ และยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ในช่วงปลายปี 2560 ที่จะมีทัพเรือจากหลายสิบประเทศเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นั้น

ล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.) นายสนิทบุญ มาฉาย อดีตสมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา เปิดเผยถึงมาตรการจัดระเบียบของ คสช.ในพื้นที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ว่า นโยบายการจัดระเบียบเป็นเรื่องที่ดี และเห็นชอบด้วย เพราะเรื่องเหล่านี้ที่ผ่านมาในฐานะที่เคยทำหน้าที่ในตำแหน่งสมาชิกสภามานานกว่า 15 ปี ได้ผลักดันให้มีการดำเนินการมาแล้วหลายครั้ง แต่การปฏิบัติเป็นไปได้ค่อนข้างยากลำบากเพราะกฎหมายไม่รองรับ เช่น เรื่องการร้องขอให้มีการควบคุมปริมาณเรือท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ได้ประสานงานร่วมไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคพัทยา ด้วยเห็นปัญหาที่จะบานปลายมากขึ้นจากการที่ไม่มีมาตรการควบคุม และจำกัดปริมาณของผู้ประกอบการ ซึ่งทางสำนักงานเจ้าท่าพัทยาเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

แต่สุดท้ายผู้ประกอบการก็ไปจดทะเบียนในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ก่อนขนย้ายเรือมาประกอบการที่เมืองพัทยาอีกจนมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกินความต้องการ จนปัจจุบันจากจำนวนเรือเพียง 300-400 ลำ กลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 800-900 ลำ ตามที่ปรากฏจนทำให้พื้นที่การจอดพักไม่เพียงพอ และแออัด แต่ก็ได้พยายามจัดระเบียบ และคุมให้จอดอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น

ในอดีตเรือท่องเที่ยวเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของเมืองพัทยาตลอดทั้งแนวชายหาด ตั้งแต่พัทยาเหนือ กลาง ใต้ จอมเทียน และเกาะล้าน มีการขนย้ายขึ้นลงเรืออย่างไม่เป็นระบบ สร้างปัญหาการจราจรและภาพลักษณ์ที่เสียหาย เมืองพัทยาจึงมีแนวคิดในการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย

กระทั่งมีการโยกย้ายให้มาจอดรวมกันอยู่ที่บริเวณท่าเทียบเรือแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ใกล้ทะเล และจุดรับส่งหลัก แต่หากจะให้มีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนพื้นที่ใหม่นั้น

โดยส่วนตัว และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็คงพร้อมให้ความร่วมมือด้วย แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้ย้ายเรือไปจอดในจุดใด ที่สำคัญหากมีการย้ายจริง และพื้นที่จอดอยู่ห่างไกลจากจุดรับส่งนักท่องเที่ยว การขนย้ายในช่วงเช้า และเย็นก็อาจสร้างปัญหาการจราจรได้ ที่สำคัญผู้ประกอบการก็ต้องแบกรับต่อต้นทุนเรื่องของเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นในการวิ่งเรือมารับและส่ง ซึ่งสุดท้ายก็ย่อมส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะจะต้องมีการปรับเรทอัตราค่าบริการใหม่เนื่องจากค่าโสหุ้ยที่เพิ่มมากขึ้น

นายสนิทบุญ เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับนโยบายการจัดระเบียบถือเป็นเรื่องดี และสนับสนุน แต่มองว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจเป็นการดำเนินการที่ปลายเหตุ ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องควรจะไปควบคุมในเรื่องของปริมาณทั้งรถโดยสารสาธารณะ และเรือท่องเที่ยวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นจนเกินความต้องการ

อีกทั้งพื้นที่เมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลหากจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหาจัดที่จอดรถบัสโดยสารอย่างเดียวคงไม่ใช่ เพราะเรือท่องเที่ยวก็ถือเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่เมืองพัทยากว่า 80% ล้วนมีความต้องการที่ใช้บริการเรือท่องเที่ยวแทบทั้งสิ้น ซึ่งถ้าไม่มีเรือเหล่านี้การท่องเที่ยวก็คงเดินไปด้วยความอย่างลำบากเช่นกัน

ดังนั้น หากจะดูแลปัญหาเรื่องรถบัสโดยสารก็ควรดูแลเรื่องของเรือท่องเที่ยวด้วย ส่วนปัญหาที่จอดรถนั้นแต่เดิมสภาเมืองพัทยาก็เคยผ่านความเห็นชอบในการจัดพื้นที่จอดรถบริเวณถนนอรรถจินดา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แล้วจะมีผลักภาระ หรือปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการเรืออย่างเดียวคงไม่ได้

ในฐานะประธานเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา ปัจจุบันได้ทำการพูดคุย และหารือกับผู้ประกอบการไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คัดค้านนโยบาย และพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพียงแต่ขอความเป็นธรรมให้ผู้เกี่ยวข้องบริหารจัดการ และพิจารณาอย่างเป็นธรรมโดยไม่เกิดผลกระทบมากนัก ซึ่งส่วนตัวแล้วก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูล และดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด

กำลังโหลดความคิดเห็น