บุรีรัมย์ - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองสนธิกำลังเข้าชาร์จจับ 2 แก๊งทวงหนี้นอกระบบขณะขับรถยนต์ตระเวนเก็บเงินลูกหนี้กลางเมืองบุรีรัมย์ หลังประชาชนเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ทั้งมีพฤติกรรมข่มขู่กดดันลูกหนี้ที่หาเงินจ่ายให้ไม่ทันจนเกิดความหวาดกลัว
วันนี้ (20 ก.ย.) พ.ท.ประพนธ์ อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.นิฐิพันธ์ แก้วใสสนิท ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์, ร.ต.อ.ชัยพฤกษ์ แผ้วพลสง รอง สวป.สภ.เมืองบุรีรัมย์ และนายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ปลัดอำเภอเมือง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จากมณฑลทหารบกที่ 26 (มทบ.26) จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับกำลังตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ เข้าชาร์จจับกุม 2 แก๊งทวงหนี้ต่างถิ่นรวมจำนวน 4 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.นครราชสีมา ขณะขับรถยนต์มาตระเวนเก็บเงินกู้ทั้งต้นและดอกเบี้ยจากลูกหนี้ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
หลังมีประชาชนเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ว่าแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวได้เรียกเก็บดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยหากกู้ 10,000 บาทจะต้องจ่ายทุกวัน วันละ 500 บาท ในระยะเวลา 24 วัน รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยจะต้องจ่ายทั้งหมด 12,000 บาท ทำให้ลูกหนี้บางรายหาเงินมาจ่ายไม่ทัน จึงถูกแก๊งทวงหนี้ใช้วาจาข่มขู่กดดันทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงได้เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หลังจากทางรัฐบาลได้มีนโยบายให้ทุกพื้นที่กวาดล้างปราบปรามแก๊งทวงหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง แก๊งทวงหนี้จึงได้ปรับเปลี่ยนจากเดิมจะใช้รถจักรยานยนต์มาตระเวนเก็บเงินจากลูกหนี้ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นรถยนต์แทนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวแก๊งทวงหนี้ทั้งหมดไปสอบสวน ซึ่งยอมรับสารภาพได้ปล่อยกู้นอกระบบ และเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 จริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 และ “เรียกดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475” ตามขั้นตอนต่อไป