บุรีรัมย์ - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ตชด.บุรีรัมย์ สนธิกำลังเดินหน้ากวาดล้างจับกุมแก๊งทวงหนี้นอกระบบ หลังได้รับร้องเรียนมีการปล่อยกู้เก็บดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อเดือน ทั้งข่มขู่จะทำร้ายลูกหนี้ที่จ่ายล่าช้า ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางเงินสด โทรศัพท์มือถือ เอกสารสัญญาเงินกู้ ค้ำประกัน
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. หลังจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ ว่าถูกแก๊งทวงหนี้เรียกเก็บดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน ทั้งมีพฤติกรรมข่มขู่จะทำร้ายลูกหนี้ สร้างความหวาดกลัวให้แก่ลูกหนี้
จึงได้มอบหมาย พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับนายกำพล สิริรัตตนนท์ นายอำเภอหนองกี่, พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผกก.สภ.หนองกี่, นายหมวดเอก ไชยยันต์ พาสว่าง ผบ.ร้อย.อส.จังหวัดบุรีรัมย์ ผสานกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดน 215 เข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบมีแก๊งทวงหนี้จากนอกพื้นที่เข้ามาตระเวนปล่อยกู้นอกระบบและเก็บดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนดจริง
จึงได้วางแผนเข้าชาร์จจับกุมกลุ่มแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวขณะขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตระเวนเก็บเงินกู้และดอกเบี้ยกับลูกหนี้ ซึ่งมีทั้งพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไป ได้ผู้ต้องหารวม 3 ราย
พร้อมของกลางเงินสดกว่า 33,000 บาท เอกสารสัญญาเงินกู้, สมุดเล่มเล็กรายชื่อลูกหนี้ กระดาษรายชื่อลูกหนี้สำหรับเก็บเงินกู้, โทรศัพท์มือถือ, นามบัตรปล่อยเงินกู้ และกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน
จากการสอบสวนทราบว่าแก๊งเงินกู้ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา, จ.สระแก้ว และ จ.ชัยนาท โดยจะปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน เช่น หากกู้เงินจำนวน 15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยผ่อนชำระเป็นรายวัน วันละ 750 บาท เป็นระยะเวลา 24 วัน และถ้ากู้เงินจำนวน 10,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยผ่อนชำระเป็นรายวัน วันละ 500 บาท เป็นเวลา 24 วัน
หากใครไม่มีจ่ายหรือจ่ายล่าช้าก็จะถูกข่มขู่ว่าจะทำร้าย สร้างความหวาดกลัวให้แก่พ่อค้าแม่ค้าหรือประชาชนที่ไปกู้ยืมเงินนอกระบบดังกล่าว จึงได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ช่วยเหลือ
หนึ่งในแก๊งเงินกู้ยอมรับว่ามีอาชีพเก็บเงินกู้นอกระบบจริง โดยตระเวนเก็บเงินกู้รายวันให้นายราเชน (ไม่ทราบนามสกุล) อยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ โดยไม่จดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มาตรา 5 วรรคแรก, เรียกดอกเบี้ยเงินกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มาตรา 4 (1)