xs
xsm
sm
md
lg

สุดประทับใจ! คาราวานวัฒนธรรมไทย-จีน สัมผัสหมู่บ้านผ้าไหมก้องโลก วิถีคนกับช้างสุรินทร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุรินทร์- นักท่องเที่ยว สื่อมวลชนจีน คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมการท่องเที่ยวไทย-จีน สุดประทับใจหมู่บ้านผ้าทอไหมชื่อก้องโลก และหมู่บ้านช้างสุรินทร์ เผยได้สัมผัสวิถีชีวิตคนกับช้าง ชมการแสดงช้างฉลาดแสนรู้ ร่วมขี่ช้าง เลี้ยงอาหารช้าง และชมศิลปวัฒนธรรมพิธีเซ่นไหว้ศาลประกำ ก่อนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารพื้นบ้าน

วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตประเทศจีน ประจำประเทศไทย และสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ได้จัดกิจกรรม “คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์ไมตรี วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย-จีน 2559”

โดยคาราวานรถดังกล่าว ประกอบด้วย รถท่องเที่ยวของจีน จำนวน 10 คัน เดินทางออกจากเมืองออร์โดส เขตปกครองตนเองมองโกเลีย ในพื้นที่ภาคเหนือของจีน ผ่านมณฑลต่างๆ ของจีน เรื่อยมาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงชายแดนจีน-สปป.ลาว และเดินทางผ่านถนน R3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ก่อนเข้าสู่ประเทศไทยที่ อ.เชียงของ เพื่อท่องเที่ยวทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางของไทย ตามลำดับ

กิจกรรมท่องเที่ยวดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริม และกระตุ้นการเดินทางในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวล้วนเป็นเจ้าของกิจการการท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่มาศึกษาเส้นทางท่องเที่ยว ดูตลาดการค้าการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม แหล่งผลิตผลไม้ อัญมณี และสินค้าต่างๆ ของประเทศไทย และหลังจากเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้วทั้งหมดจะเดินทางกลับประเทศจีนตามเส้นทางเดิมในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็คาดหวังว่าจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาตามเส้นทางนี้เหมือนเดิม

ล่าสุด วันนี้ที่หมู่บ้านทอผ้าไหมท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ น.ส.สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้การต้อนรับคณะคาราวานรถยนต์สานสัมพันธไมตรีวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย-จีน 2559 มีนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยรถยนต์ จำนวน 10 คัน สื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์อีกจำนวน 10 คัน มีนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางมาด้วย จำนวน 60 คน

ทั้งนี้ เพื่อเข้าชมโรงทอผ้าไหมยกทองโบราณ และผ้าไหมผสมผสานลายราชสำนักต่างๆ เพื่อสัมผัสถึงวิธีการ กระบวนการถักทอผ้าไหมพื้นบ้านสุรินทร์ และเรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ ที่มีความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์โดดเด่นสวยงาม จนทำให้ผ้าไหมสุรินทร์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

ทั้งนี้ นักนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่างให้ความสนใจการทอผ้าไหมและสินค้าผ้าไหมที่ถักทอเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผ้าถุง ชุดผ้าไหม ผ้าขาวม้า ผ้าโสร่ง และผลิตภัณฑ์โอทอปของที่ระลึกต่างๆ ที่ประดิษฐ์ และออกแบบขึ้นมาจากผ้าไหมด้วยความสนใจ

สำหรับหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง ตั้งอยู่ที่บ้านท่าสว่าง ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ หมู่บ้านที่ได้รับการยกย่องว่า “ทอผ้าไหมหนึ่งพันสี่ร้อยสิบหกตะกอ” เมื่อครั้งทอผ้ายกทองทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากการริเริ่มผลงานศิลปหัตกรรมของกลุ่มทอผ้ายกทอง “จันทร์โสมา” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการอนุรักษ์ และฟื้นฟูการทอผ้ายกทองชั้นสูงแบบราชสำนักไทยโบราณ

โดยมี อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นแกนนำ และเป็นผู้รวบรวมชาวบ้านท่าสว่าง มารวมกลุ่มกันทำงานทอผ้ายามว่างจากงานไร่งานนา ด้วยการออกแบบลวดลายที่สลับซับซ้อนงดงาม และศักดิ์สิทธิ์ผสมผสานกันระหว่างลวดลายการทอแบบราชสำนัก กับเทคนิคการทอผ้าแบบพื้นบ้าน จนกลายเป็นผ้าทอที่มีความงดงามอย่างมหัศจรรย์ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

ผลงานที่โดดเด่นของที่นี่ คือ การได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลให้ทอผ้าสำหรับตัดเสื้อผู้นำและผ้าคลุมไหล่สำหรับคู่สมรสผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจที่มาร่วมประชุมผู้นำเอเปก เมื่อปลายปี 2546 จนเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ “หมู่บ้านทอผ้าเอเปก” และรางวัล OTOP ระดับ 5 ดาวของประเทศ

จากนั้นคณะนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังหมู่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หรือหมู่บ้านช้างที่มีการเลี้ยงช้างไว้ในครอบครัวกว่า 300 เชือก ได้ชมวิถีชีวิตคนกับช้างที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เลี้ยงช้างที่เป็นสัตว์ใหญ่ไว้ในครอบครัว เป็นความผูกพันกัน เสมือนช้างเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งในครอบครัว

ได้ชมการแสดงของช้างที่แสดงออกถึงความฉลาดแสนรู้ ความน่ารักของช้าง ชมช้างเต้นรำตามเสียงเพลง ช้างเล่นฮูลาฮูป ช้างวาดรูป ได้เลี้ยงอาหารช้างอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยังได้ซื้อผลงานการวาดรูปของช้างแสนรู้อีกด้วย

จากนั้นได้นั่งบนหลังช้างเดินทางไปยังสำนักสงฆ์ป่าอาเจียง เพื่อร่วมกันเลี้ยงอาหารช้าง จำนวน 40 เชือกอย่างใกล้ชิด ซึ่งช้างได้กินอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ จากนั้นร่วมพิธีเซ่นไหว้ศาลประกำ ที่สถิตของสิ่งศักดิ์ครูบาใหญ่ของคนเลี้ยงช้าง ที่เคารพนับถือของบรรดาคนเลี้ยงช้าง และควาญช้าง ชมสุสานสานช้าง ที่สำหรับเก็บกระดูกช้างในหมู่บ้าน และที่ไปล้มตายยังที่ต่างๆ จะถูกนำมาเก็บไว้ที่สุสานช้างแล้วกว่า 130 เชือก ถูกนำมาฝังไว้ที่สุสานช้างสำนักสงฆ์ป่าอาเจียง

จากนั้นร่วมรับประทานอาหาร นั่งล้อมวงแบบขันโตก ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวสุรินทร์ ซึ่งนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความประทับใจในการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นอย่างมาก จากนั้นคณะทั้งหมดจะเดินทางไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคอีสานตามกำหนดการต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น