อ่างทอง - จังหวัดอ่างทอง มีวัดวาอารามที่มีความเก่าแก่โบราณสวยงามมากมาย ถ้าคุณจะไปเที่ยวทำบุญไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว รับประทานอาหารอร่อย ซื้อของฝากติดมือกลับบ้าน ณ ที่วัดไหนดี
จังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่ประมาณ 600,000 ไร่ มี 7 อำเภอ เป็นเมืองที่มีวัดวาอารามเก่าแก่โบราณสวยงามมากมาย สุดยอดความเป็นที่สุดในด้านความศักดิ์สิทธิ์กว่า 200 วัด ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนล่าง ห่างจากกรุงเทพฯ 100 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน 2 สาย คือ แม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา
วันนี้ ถ้าคุณจะไปท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทองก็ต้องไปเที่ยววัดไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว ตลอดจนแวะรับประทานอาหารอร่อย ซื้อของฝากติดมือกลับบ้าน
สำหรับวัดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปมี 9 วัด คือ
1.“วัดขุนอินทประมูล” อำเภอโพธิ์ทอง เป็นพุทธมณฑลจังหวัดอ่างทอง ที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี มีพระนอนที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย มีความยาววัดจากปลายพระเมาลี ถึงปลายพระบาทได้ 50 เมตร สักการบูชา “องค์พระพุทธไสยาสน์” โดยสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้เรามีอายุยืนยาว เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไป เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 จนเหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับ 100 ปี
องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม และเที่ยวชมโบสถ์ไฮเทคร้อยล้าน มีจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นรูปเทวดา และนางฟ้าเล่นดนตรีสมัยใหม่ เล่นกีตาร์ สมาร์ทโฟน รวมทั้งการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งบันไดเลื่อน ลิฟต์ และนำเอาระบบไฮดรอลิกมาใช้ควบคุมอุปกรณ์ของใช้ภายในโบสถ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ญาติโยมที่มาไหว้พระขอพร
2.“วัดไชโยวรวิหาร” เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ตำบลไชโย อำเภอไชโย เป็นสถานที่ที่ประดิษฐานพระมหาพุทธพิมพ์ พระพุทธรูปปางสมาธิ มีขนาดหน้าตักกว้าง 16.10 เมตร สูง 22.65 เมตร ที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจังหวัดอ่างทอง นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติ “พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ “หลวงพ่อโต” แห่งวัดไชโย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอ่างทอง และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ได้สร้างขึ้น เป็นปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ มีขนาดหน้าตักกว้าง 16.10 เมตร สูง 22.65 เมตร ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดอ่างทอง และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน
3.“วัดม่วง” ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ สถานที่ที่ประดิษฐาน พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกกว้าง 26 เมตร สูง 93 เมตร ใครที่ได้มากราบไหว้สัมผัสที่ปลายนิ้วของพระองค์ใหญ่ ท่านจะประทานพรให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน (เป็นใหญ่เป็นโต)
ภายในวัดมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วิหารแก้ว รูปปั้นแสดง แดนนรก แดนสวรรค์ แดนเทพเจ้าไทย และแดนเทพเจ้าจีน ซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประชาชนทั่วทุกสารทิศต่างพาครอบครัวแห่เดินทางมากราบไหว้ สักการะ และขอพร ด้านหน้าที่การงาน ด้านครอบครัว ด้านการศึกษา ให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง และมีความสุข โดยมีความศรัทธา และความเชื่อว่า ถ้าได้มาเคารพสักการะ และมีการขอพร ใช้มือสัมผัสที่ปลายนิ้วของหลวงพ่อ และอธิษฐานจะสมหวังในทุกๆ ด้าน
4.“วัดต้นสน” ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง ที่ประดิษฐานสมเด็จพระศรีเมืองทอง พระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 1 ศอก 19 นิ้วหล่อด้วยโลหะทั้งองค์ ลงรักปิดทอง และที่บริเวณหน้าวัดต้นสน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีแพปลาศรีเมืองทอง มีปลานานาชนิดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก มารวมอาศัยอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้ให้ทานอาหารปลา และยังมีบ้านบอลให้เด็กๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนาน พร้อมชมบ่อเต่า ที่มีเต่าขนาดใหญ่จำนวนมากอาศัยอยู่ให้ดูชม พร้อมกับการไหว้พระขอพร
5.“วัดป่าโมกวรวิหาร” อำเภอป่าโมก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมาก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท ประมาณ 12 วา ก่ออิฐถือปูนปิดทอง มีเรื่องโจษจันมหัศจรรย์อภินิหารของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนจำนวนมากเคารพนับถือ มีร่ำลือกันมาว่า พระนอน วัดป่าโมกข์พูดได้
6.“วัดสี่ร้อย” ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ ประดิษฐานหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 21 เมตร กว้าง 6 เมตร มีเรื่องเล่าขานเป็นข่าวใหญ่โตว่า หลวงพ่อโตวัดสี่ร้อยร้องไห้ มีโลหิตไหลออกมาจากพระนาสิก โดยมีน้ำสีแดงเหมือนโลหิตไหลบริเวณพระนาสิก ประชาชนนักท่องเที่ยวต่างเดินทางพิสูจน์ความจริง กราบไหว้ขอพร
7.“วัดโล่ห์สุทธาวาส” ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง กราบไหว้ รูปหล่อของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จับยามสามตา ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ และเดินลอดพระอุโบสถสวรรค์ที่มีความงดงามเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
8.“วัดจันทรังษี” ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองอ่างทอง ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) หล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9 เมตร 9 นิ้ว น้ำหนัก 45 ตัน ลงรักปิดทองคำ กราบไหว้เสริมสิริมงคล และสัมผัสที่ฐานของหลวงพ่อสด ท่านจะประทานพรให้เรื่องสุขภาพแข็งแรง สดใส หน้าตางดงาม
9.“วัดสังกระต่าย” เป็นวัดร้างที่มีโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 400 ปี มีรากต้นโพธิ์ 4 ต้น โอบล้อมตัวโบสถ์ไว้ไม่ให้พังทลายเป็น โบสถ์ปรกโพธิ์ ความงามมหัศจรรย์ ตั้งอยู่บริเวณข้างสำนักงานเทศบาลตำบลศาลาแดง หมู่ที่ 4 ตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
โบสถ์วัดสังกระต่าย เป็นโบสถ์เก่าแก่อย่ากว่า 400 ปี ปัจจุบันไม่มีหลังคา มีเพียงพื้น และตัวฝาโบสถ์ที่ล้อมรอบอยู่ด้วยรากต้นโพธิ์ 4 ต้น ส่วนหลังคานั้นได้ร่มเงาจากต้นโพธิ์ จึงทำให้ผู้ที่ได้เข้าไปชมความงามมหัศจรรย์ โบสถ์ปรกโพธิ์ ต่อผู้พบเห็นนั้นได้มีรากของต้นโพธิ์ 4 ต้นที่ขึ้นอยู่ 4 มุมของโบสถ์วัดสังกระต่ายมีรากต้นโพธิ์สวยงามยึดเกาะฝาผนังของโบสถ์ไว้ไม่ให้พังทลายลงมา
ภายในตัวโบสถ์นั้นมีอยู่ 3 ห้อง ด้านในห้องแรกมีหลวงพ่อแก่น ตั้งประดิษฐานให้ประชาชนกราบไหว้ และที่ห้องด้านกลางนั้นมีประประธานองค์ใหญ่หลวงพ่อวันดี และหลวงพ่อศรี อยู่ด้านซ้ายหลวงพ่อสุข อยู่ด้านขวาประดิษฐานอยู่ด้านกลางห้อง และด้านหลังยังมีอีกห้องซึ่งเป็นห้องว่าง เมื่อเดินผ่านประตูโบสถ์ที่มีรากต้นโพธิ์ยึดเกาะผ่านเข้าไปด้านในโบสถ์จะได้พบความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น มีรากต้นโพธิ์สวยงามชอนไวไปตามฝาผนังโบสถ์พร้อมอากาศที่โล่ง เนื่องจากมีกิ่งก้านของต้นโพธิ์ทั้ง 4 ต้นนั้นบังแสดแดด และเป็นร่มเงาจึงทำให้ด้านในโบสถ์ของวัดสังกระต่าย โปรง และเย็นสบาย
โบสถ์วัดสังกระต่ายแห่งนี้ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอ่างทอง ในทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงดงามของธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับพุทธศาสนาให้ประชาชนมาชมความงามพร้อมไหว้พระขอพร ชมมหัศจรรย์โบสถ์ปกโพธิ์งามมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น อยู่ที่วัดสังกระต่าย ข้างเทศบาลตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง
ส่วนด้านอาหารร้อนอร่อย มีให้แวะชิมตลอดทางที่เดินทางไปเที่ยวทำบุญไหว้พระ เช่น “ร้านอาหารกำธร” เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอ่างทอง สืบทอดความอร่อยมายาวนานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่ที่ 9/3 หมู่ 2 ถนนอ่างทอง-โพธิ์ทอง ตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง เมนูแนะนำ คือ ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ และปลาสลิดไร้ก้าง แกงอ่อมใบยอ
“ครัวคุณกุ้ง” ตั้งอยู่ที่บริเวณติดถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก (สายใน) ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก ส่วนเมนูแนะนำ คือ แกงไข่ไร่ทุ่ง ยำชะอมทอด ผัดฉ่าทะเล แกงป่าหมูแดดเดียว และสลัดผลไม้กุ้งทอด
“ร้านปิ่นโต” อยู่บริเวณติดถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก (สายใน ) ตำบลป่าโมก บรรยากาศติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารแนะนำของทางร้าน คือ ต้มกะทิสายบัวปลาทู กุ้งกระเบื้อง แกงคั่วหอยขม และปลาคั่งผัดฉ่า
“ร้านนิรมิต” เป็นร้านอาหารที่ติดริมแม่น้ำน้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญอาหารที่ทางร้านแนะนำ คือ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ปูหล่น ต้มยำปลาคัง และผัดไทยกุ้งสด
“ร้านเรือกลางสวน” ตั้งอยู่ริมถนนโพธิ์ทอง-วิเศษชัยชาญ หมู่ 11 ตำบลบ่อแร่ อำเภอโพธิ์ทอง เมนูที่ทางร้านแนะนำ คือ ปลาช่อนลุยสวน ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ผัดฉ่าปลาคัง และห่อหมกมะพร้าวอ่อน
และขอแนะนำอาหารจานเดียวร้านจะอยู่ติดกับวัดไชโยชื่อร้าน “กุ้งยิ้ม” เป็นร้านผัดไทยกุ้งสด เจ้าของร้านบอกว่า กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งแม่น้ำ และจะมีผักเครื่องเคียงอยู่ที่โต๊ะ แบบว่าใครที่กลัวอ้วนต้องร้านนี้ได้เลย
ส่วนของฝากที่ขึ้นชื่อในจังหวัดอ่างทองจะหากิน และชิมได้ก่อนซื้อกลับบ้านก็ต้องเชิญแวะที่ “ตลาดปี 100” ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จะมีขนมลำเจียก ถั่วทอดกลอย ข้าวตังหมูหยอง และขนมต่างๆ สดใหม่ทุกวัน และที่พลาดไม่ได้ปิดท้ายรายการคือเครื่องรางของขลังรูปหล่อ และเหรียญเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่เมืองอ่างทอง ซึ่งมีมากมาย
หากใครมีเวลาว่างในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หรือวันหยุดงานก็อย่าลืมไปเที่ยวไหว้พระ และชมความงดงามแห่งเมืองอ่างทอง รับประทานอาหารอร่อย และซื้อของฝากกลับบ้านกันนะครับ