ศูนย์ข่าวศรีราชา- วัฒนธรรม จ.ชลบุรี ร่วมกับชาวบ้าน อบต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ ของ อ.เมือง จ.ชลบุรี แถลงจัดงาน “กินปูดูปลาตีน”
วันนี้ (8 ก.ย.) นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรม จ.ชลบุรี ร่วมกับนางสุภาพ ธารา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยท่องเที่ยวและกีฬา จ.ชลบุรี พัฒนาการ จ.ชลบุรี และสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันแถลงข่าวจัดงานและเสวนา การนำทุนทางวัฒธรรม สร้างสรรค์เศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ “กินปูดูปลาตีน” ชมวิถีถิ่นป่าชายเลน ณ ลานศูนย์เรียนรู้เชิงอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.59 ที่เป็นพิธีเปิด และจะเปิดเส้นทางเชิงวัฒนธรรมในชุมชนเป็นต้นไป ที่บริเวณป่าชายเลน ลานศูนย์เรียนรู้เชิงอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี
โดยมีวัตถุประสงค์ของการที่จะนำชุมชน ต.คลองตำหรุ มาเป็นสถานที่จัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ เนื่องจากเป็นตำบลที่มีทุน และทรัพยากรทางวัฒนธรรม และยังคงมีวิถีชีวิตที่ดั้งเดิมมาแต่อดีต วัฒนธรรม จ.ชลบุรี จึงอยากจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความเป็นอยู่ตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวชลบุรี ให้แก่หน่วยงานต่างๆ และนักท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย พร้อมนำเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “กินปู ดูปลาตีน” ชมวิถีถิ่นป่าชายเลน และร่วมกันอนุรักษ์ สืบสานและสร้างสรรค์วัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป
นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรม จ.ชลบุรี กล่าวว่า ต.คลองตำหรุ จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ว่า ชาวบ้านที่นี่ดั้งเดิมอพยพมาจาก ต.บางละหมาด เขตตลอ่งชัน จ.ธนบุรี เมื่อกว่า 200 ปีโดยตั้งหลักแหล่งประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำนาเกลือ ทำฟืน และทำนากุ้ง จากครอบครัวเล็ก กลายเป็นครอบครัวขยาย
โดยกิจกรรมท่องเที่ยว “กินปูดูปลาตีน” สถานที่จัดงานอยู่ ถ.บางนา-ตราด ขาเข้า กทม. ต.คลองตำหรุ เยื้องๆ กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี ปากทางจะมีซุ้มประตูวัดบุญญราศี เดินทางเข้าไปประมาณ 500 เมตร เข้าไปในบริเวณวัดบุญญราศี จอดรถฟรีในวัด จะมีรถบรรทุกโดยสาร 6 ล้อ พาเที่ยวชมฟรีตลอดเส้นทาง สำหรับนักปั่นจักรยานก็นำจักรยานมาขี่คนเดียว หรือหมู่คณะก็ได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่แจกแผ่นพับแผนที่ท่องเที่ยวทั่วทั้งตำบล
โดยเริ่มต้นจะพาเข้าไปนมัสการความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเมี้ยน อาภาโส หรือพระครูนิวิฐบุญญราศี มรณภาพตั้งแต่ปี 2551 สังขารไม่เน่าเปื่อย และโบสถ์ไม้สักอายุกว่า 100 ปี จากนั้นก็พาไปชอปปิ้งศูนย์ฝึกอาชีพแม่บ้านบ้านล่าง ม.2 เป็นร้านค้าของชุมชน ผลิตและจำหน่ายกระเป๋าสานด้วยเส้นพลาสติก ตัดเย็บเสื้อผ้า ประดิษฐ์ดอกไม้จากธนบัตร อาหารทะเลแปรรู
จากนั้นก็จะพาไปกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อราชย์ พ่อหลวง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชุมชน ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีประเพณีทำบุญกองข้าว จากนั้นก็จะพาไปจุดเรียนรู้การทำนาเกลือแห่งเดียวที่หลงเหลือของ จ.ชลบุรี ซึ่งผลิตเกลือสมุทร หรือเกลือทะเล ที่เปี่ยมไปด้วยธาตุไอโอดีนตามธรรมชาติ สามารถป้องกันโรคคอพอกได้
จุดต่อไปพาชมนก ซึ่งจะมีนกใกล้สูญพันธ์ และหายากที่บริเวณพื้นที่ป่าชายเลน เช่น นกกาบบัว นกกระบาง นกกระทุ่ง เหยี่ยว และนกชายเลนนานาชนิด
จากนั้นก็จะมีจุดชมปลาจำพรวด หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ปลาตีน พร้อมกับมีจุดขายอาหารพื้นบ้านของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งยังคงเก็บของป่า ล่าสัตว์ จับสัตว์น้ำ และจากการผลิตขึ้นมาเอง เช่น การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งอาหารพื้นบ้านทำมาจากใบชะคราม เช่น แกงส้มชะคราม ไข่เจียวชะคราม ปูแสมตำมะขามอ่อน ปูแสมหลน ปูแสมดองใส่ส้มตำ ปลาหมอเทศฉู่ฉี่ ปลาหมอเทศทอด ปูทะเลแดง ปูทะเลขาว ขนมพื้นบ้าน ได้แก่ ขนมจาก ลูกจากเชื่อม ลูกจากลอยแก้ว ลำแพนน้ำปลาหวาน ลูกแสมกวน
