ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำ เบี้ยวนัดแถลงข่าวชี้แจงกรณีวัดเปิดบริการที่พักหน้าตาเฉย ปล่อยนักข่าวรอเก้อ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่เข้าขอรับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากทางวัด พบชั้นล่างของอาคารถูกจัดคล้ายส่วนต้อนรับ มีครบทั้งล็อบบี้ ชุดรับแขก และมุมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบมีการติดป้ายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ปี 2010-2012 ประเภทห้องพักสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมอบให้ทางวัดด้วย
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดียเป็นภาพห้องพักที่ดูคล้ายห้องพักโรงแรมที่มีการตกแต่งอย่างดีและสวยงาม พร้อมทั้งมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันและบริการอาหารเช้า พร้อมระบุว่าเป็นบริการของทางวัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ที่เข้าพักมีทั้งพระสงฆ์ และคนทั่วไปที่เข้าพักเป็นหมู่คณะหรือครอบครัวที่ประกอบทั้งผู้ชาย, ผู้หญิง และเด็กด้วย ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับความเหมาะสมนั้น
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า นายจักขุบาล ธนัญชัย ที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำ ได้มีการนัดหมายที่จะจัดการแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวที่วัดอู่ทรายคำ ในเวลา 12.00 น.วันนี้ (6 ก.ย.) อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับไปไม่ปรากฏว่าทางวัดจัดให้มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด ขณะที่นายจักขุบาลก็ไม่ได้อยู่ที่วัดด้วย ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่เดินทางมาตามนัดหมาย ทั้งนี้ เมื่อโทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปที่นายจักขุบาลได้รับคำตอบว่ายกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าวเพราะได้ชี้แจงให้ผู้ใหญ่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนทราบข้อมูลทั้งหมดและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว
ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางมาที่วัดอู่ทรายคำด้วย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวในสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยได้ขออนุญาตจากเด็กวัดที่เป็นผู้ดูแลเข้าทำการตรวจสอบบริเวณชั้นล่างของอาคารสูง 3 ชั้นภายในวัด ที่ถูกระบุว่ามีการเปิดให้บริการห้องพัก พบว่ามีการจัดพื้นที่ลักษณะเหมือนเป็นส่วนต้อนรับที่มีทั้งล็อบบี้, ชุดรับแขก, โต๊ะอาหาร, มุมเครื่องดื่มและของว่าง ที่พบทั้งชา กาแฟ เครื่องปิ้งขนมปังและแยม รวมทั้งตู้ที่มีการจัดเก็บผ้าปูที่นอน, ผ้าเช็ดตัวและผ้ารองเตียง เป็นจำนวนมาก และยังพบอุปกรณ์การทำความสะอาดห้องพักด้วย
นอกจากนี้ จากการขอตรวจดูที่ล็อบบี้นั้นเบื้องต้นพบกุญแจห้องพักที่ระบุหมายเลขห้อง กระดาษรายละเอียดที่ดูคล้ายจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าพัก และพบมีการวางป้ายตั้งโต๊ะที่เป็นป้ายรับรองจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีข้อความระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า “THAILAND TOURISM STRANDRAD” ซึ่งมีรายละเอียดด้วยว่า 2010-2012 Public restroom stand for tourism (International Level) และข้อความว่า WAT OU SAI KHAM โดยจากข้อความดังกล่าวเบื้องต้นสรุปความเป็นภาษาไทยได้ว่า “มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ปี 2010-2012 ห้องพักสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ วัดอู่ทรายคำ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ขอเข้าทำการตรวจสอบ เปิดเผยว่า การเข้าขอตรวจสอบนครั้งนี้เป็นการมาอย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้นพบมีลักษณะคล้ายจัดให้เป็นที่พักแต่ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดลงไปได้ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในระดับหนึ่งจากผู้ที่ดูแลอาคาร แม้จะไม่ได้อนุญาตให้ขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพักที่อยู่ชั้น 2 และชั้น 3 ของอาคาร เนื่องจากเจ้าอาวาสไม่อยู่วัด และผู้ดูแลที่เป็นเด็กวัดไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ซึ่งจากนี้จะนำข้อมูลเบื้องต้นรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และอาจจะต้องมีการขอหมายเพื่อนำมาขอเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับป้าย “THAILAND TOURISM STRANDRAD” ที่มีการพบในวัดอู่ทรายคำนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อมูลว่าเป็นป้ายที่กรมการท่องเที่ยวทำออกมาเพื่อมอบให้แก่ธุรกิจการท่องเที่ยวใน 5 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวชุมชนแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ 2. ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย โรงแรมในเมือง โรงแรมตากอากาศ โรงแรมบูทีค โรงแรมพูลวิลลา และโรงแรมเพื่อการประชุมสัมมนา 3. ประเภทรายการนำเที่ยว แบ่งเป็นรายการนำเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ และรายการนำเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 4. ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว และ 5. ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ