บุรีรัมย์ - รอง ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ผู้มีใจรักด้านการเกษตรได้นำประสบการณ์จากพ่อแม่และแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ปลูกไม้ผลผสมผสานใช้น้ำน้อยและให้ผลผลิตเร็ว ทั้งพุทรา ฝรั่ง แก้วมังกร บนเนื้อที่ 21 ไร่ เก็บผลผลิตขายทั้งในและนอกฤดูสร้างรายได้เสริมปีละกว่าล้านบาท ทั้งหวังเป็นแหล่งต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ชุมชน
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์ อายุ 43 ปี รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 ผู้มีใจรักด้านการเกษตรได้นำประสบการณ์ที่เคยทำการเกษตรช่วยพ่อแม่ในวัยเด็ก และเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต การศึกษาดูงาน มาทดลองปลูกไม้ผลแบบผสมผสาน ใช้น้ำน้อย ให้ผลผลิตเร็ว และเก็บขายต่อเนื่องได้หลายปี ที่บริเวณบ้านสนวน ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ
โดยเริ่มแรกได้ลงทุนปลูกพุทราสามรส และพุทราพันธุ์น้ำนม จำนวน 800 ต้น ใช้เวลาเพียง 6 เดือน สามารถเก็บผลผลิตขายได้ทั้งในและนอกฤดู หลังทดลองปลูกมาได้ 2 ปีสามารถเก็บผลผลิตขายทั้งปลีก และส่ง เฉลี่ยปีละกว่า 1 ล้านบาท ด้วยรสชาติพุทราที่หวาน กรอบ อร่อย และผลสวย ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดจนปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน บางช่วงผลผลิตออกไม่ทันต่อความต้องการ
หลังประสบผลสำเร็จในการปลูกพุทราแล้ว นายเสริมฤทธิ์ยังได้ปลูกฝรั่งกิมจู ฝรั่งแป้นสีทอง แซมกับต้นพุทราอีกอย่างละ 500 ต้น ทั้งได้ทำแปลงปลูกแก้วมังกรเพิ่มอีก 1,800 ต้นด้วย รวมทั้งยังมีแผนจะปลูกมะขาม และกล้วยน้ำว้าให้เต็มพื้นที่ทั้ง 21 ไร่ เชื่อว่าหากเก็บผลผลิตไม้ผลที่ปลูกไว้ได้เต็มที่ก็จะมีรายได้ไม่น้อยกว่าปีละ 2 ล้านบาท
นายเสริมฤทธิ์บอกว่า อาชีพข้าราชการถือเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่ลงทุนปลูกไม้ผลปัจจุบันสำคัญ คือ ส่วนตัวมีใจรักด้านการเกษตร อีกทั้งยังจะเป็นรายได้เสริมของครอบครัวในอีกทางหนึ่ง และที่สำคัญยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มาดูแลสวนให้ด้วยซึ่งปัจจุบันจ้างคนงานอยู่ 6 คน ให้ค่าจ้างคนละ 250 บาทต่อวัน ทำให้ไม่ต้องเคลื่อนย้ายไม่ทำงานต่างจังหวัด
นอกจากนั้นยังตั้งใจว่าจะให้สวนไม้ผลแห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรแก่ชุมชน ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ฟรี เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในการทำการเกษตรแบบผสมผสานลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวซึ่งมีความเสี่ยงทั้งภัยธรรมชาติ และราคา หากเกษตรกรคนใดสนใจสามารถมาเยี่ยมชมและดูวิธีการปลูกได้