ซีพีเอฟ ผนึกพลังชุมชน “ปลูกป่าต้นน้ำ” ร่วมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามยุทธศาสตร์ “ดินน้ำป่าคงอยู่”
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จับมือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และชุมชน ปลูกป่าต้นน้ำใหม่ จำนวน 39 ไร่ 1,999 กล้า
พร้อมมอบอุปกรณ์ป้องกันไฟป่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ณ พื้นที่ป่าต้นน้ำพรุตาอ้าย หมู่ที่ 1 ตำทะเลทรัพย์ อำเภอ ปะทิว จังหวัดชุมพร
นายบุญธรรม กังแฮ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน ได้แก่ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ สำหรับกิจกรรมปลูกป่าต้นน้ำพรุตาอ้ายในวันนี้ อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ดินน้ำป่าคงอยู่”
โดยซีพีเอฟเป็นภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุน และทำกิจกรรมปลูกป่าต้นน้ำร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชน โดยปลูกป่าต้นน้ำใหม่จำนวน 39 ไร่ พร้อมมอบอุปกรณ์ป้องกันไฟป่า เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานดูแลผืนป่าทั้งในเชิงป้องกัน และดูแลรักษาป่า นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานไปยังศูนย์ป้องกันไฟป่าเพื่อร่วมกันจัดกิจรรมให้ความรู้กับชุมชนผู้ดูแลผืนป่าต่อไป
“ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนที่มาทำกิจกรรมในวันนี้จะภาคภูมิใจต่อสิ่งที่เราได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ด้วยความตั้งใจจริง เพราะเราไม่ได้เพียงผืนป่าต้นน้ำที่เพิ่มขึ้น แต่หากจะยังประโยชน์มากมาย เช่น
1) ได้ธำรงรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นต้นทุนสำคัญในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน 2) ได้บ่มเพาะและปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และ 3) ได้สร้างพลังความร่วมมือร่วมใจของภาคส่วนภาคีต่างๆ ทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน หน่วยงานราชการ ในการร่วมทำสิ่งที่ดีงามต่อแผ่นดินเกิดของพวกเรา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ในหลวง และพระราชินี” นายบุญธรรม กล่าวเสริม
ปัจจุบัน บริเวณป่าต้นน้ำพรุตาอ้าย มีพื้นที่ประมาณ 382 ไร่ เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของอำเภอ ปะทิว จังหวัดชุมพร ซึ่งหล่อเลี้ยงประชาชนใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางสน ตำบลทะเลทรัพย์ และตำบลสะพลี ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ผืนป่าถูกบุกรุก
ต่อมา ภายหลังชุมชนจึงก่อตั้งเป็นกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำพรุตาอ้าย ร่วมมือร่วมใจกันปลูก และดูแลป่าต้นน้ำแห่งนี้อย่างเข้มแข็งตลอดมา เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยกิจกรรมวันนี้จะมีการปลูกป่าต้นน้ำเพิ่ม จำนวน 39 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่บริเวณป่าต้นน้ำพรุตาอ้ายมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 421 ไร่