อุบลราชธานี - ตามสืบรถเช่าที่สองผัวเมียทหาร-ตำรวจหลอกเช่าแล้วเชิด พบ 1 ใน 3 คันถูกส่งขายไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ตำรวจเล็งแจ้งข้อหาฐานรับของโจร พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มหากกระทำผิดในส่วนอื่น ด้านแหล่งกบดานสองผัวเมียเชื่อยังอยู่ในประเทศไทย
จากกรณีสองสามีภรรยา ร.ต.ท.หญิง วัลยา จันทร อายุ 31 ปี รองสารวัตรธุรการสถานีตำรวจโพธิ์ทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และ ส.ท.พัฒนพงษ์ ฟองมนต์ อายุ 32 ปี ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 16 จ.ยโสธร ก่อเหตุขอเช่ารถยนต์จากเจ้าของเต็นท์ให้เช่ารถในหลายจังหวัดภาคอีสานจำนวนหลายคันแล้วเชิดรถนำไปจำนำต่อจนสร้างความเดือดร้อนทั้งผู้ให้เช่ารถและผู้รับจำนำ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (26 ส.ค. 59) พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า หลังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ออกหมายจับสองผัวเมียและกระจายหมายไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้เข้าตรวจยึดรถยนต์ที่ร้านพีเอสจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง บ้านกู่ หมู่ 7 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้จำนวน 13 คัน และมีนายมานะ แต้ลำพัว อายุ 54 ปี พ่อตาเจ้าของร้านแสดงตัวเป็นผู้รับจำนำและครอบครองรถทั้งหมดไว้ แต่ไม่มีรถโตโยต้า วีออส ทะเบียน 5 กต 4892 กรุงเทพมหานคร ของนายวุฒิชัย ทองเถาว์ อายุ 34 ปี ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี และจากการสืบสวนทราบว่า นายมานะได้ขายรถคันดังกล่าว ให้กับกลุ่มค้ารถผิดกฎหมายข้ามชาติ นำรถส่งข้ามไปประเทศลาวผ่านจังหวัดนครพนมแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหานายมานะ ฐานรับของโจร และถ้าการขยายผลของชุดสอบสวนของ สภ.ธวัชบุรี พบนายมานะกระทำผิดในส่วนอื่นอีกก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
สำหรับการสืบสวนติดตามจับกุมตัวสองผัวเมียนั้นมีการตรวจสอบไปตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ยังไม่พบว่าหลบหนีออกไปนอกประเทศ คาดว่าทั้งคู่ยังหลบอยู่ในประเทศไทย โดยชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามหาเบาะแสแหล่งหลบซ่อนอยู่ โดยสรุปในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี ร.ต.ท.หญิง วัลยา จันทร และ ส.ท.พัฒนพงษ์ ฟองมนต์ สองผัวเมียหลอกเช่ารถแล้วนำไปขายหรือจำนำรวม 3 คัน โดยได้รถกลับคืนมาแล้ว 2 คัน และถูกขายข้ามประเทศไปแล้ว 1 คัน