อุตรดิตถ์ - ชาวสวนทุเรียนลับแล รวมตัวยื่นข้อเสนอขอทำกินในผืนป่าต้นน้ำศรีสัชนาลัยต่อ บอกเช่าก็ได้-ปลูกป่าสลับกับทุเรียนก็เอา หลัง จนท.บุกปักป้ายยืดคืนแล้วบางส่วน จนผวากลัวโดนยึดสวนกันทั่ว ยันไม่มีนายทุนเอี่ยว
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนจากตำบลบ้านตึก ตำบลฝายหลวง และตำบลแม่พูลตำบลนา-นก-กก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จำนวนกว่า 3 ร้อยคน ได้รวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญวัดประทุมคงคา อ.ลับแล เพื่อขอให้ทางราชการผ่อนผันให้มีการทำกินในที่ดินต่อไปได้
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่เข้าไปปักป้ายยึดคืนที่ดินทำกินในผืนป่าต้นน้ำศรีสัชนาลัย ที่ถูกบุกรุกบริเวณบ้านแม่เทิน หมู่ 8 ต.แม่สิน และบ้านแม่คุ หมู่ 8 ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ไปจำนวน 27 แปลง และยังมีป้ายที่ยังไม่ได้ติดอีกทั้งหมดจำนวน 40 แปลง ทั้งยังมีกระแสข่าวอีกว่าจะมีการยึดคืนผืนที่ต่อเนื่องลงมายังเขตพื้นที่ตำบลฝายหลวง ตำบลแม่พูล และตำบลนานกกกด้วย โดยชาวบ้านพากันยืนยันว่าพื้นที่ทำกินที่ถูกปักป้ายยึดเหล่านี้ไม่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเพียงชาวสวนรายย่อยเข้าไปทำกิน และได้ปลูกทุเรียนจนได้ผลผลิตแล้ว
ต่อมา พ.ท.ไตรภพ เทพเทพา รองหัวหน้ากองการข่าว มทบ.35, พ.ต.อ.นิรันดร์ โรหิตาคนี ผกก.สภ.ลับแล, นายจรูญ ปัญญายงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล และนายลิ ทีกว้าง สจ.เขตอำเภอลับแล ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอว่าให้ทางการหยุดยึดคืนผืนป่าเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ และขอให้ทางการอนุญาตให้ชาวสวนเช่าพื้นที่เพื่อปลูกทุเรียนได้เหมือนกับทางภาคใต้ที่ภาครัฐได้เปิดพื้นที่ให้ชาวสวนในภาคใต้เช่าพื้นที่เพื่อปลูกสวนปาล์ม หรืออีกทางหนึ่งคือขอให้ทางการเปิดเป็นป่าชุมชน โดยให้ชาวสวนช่วยปลูกไม้ยืนต้นอื่นๆ สลับกับการปลูกทุเรียน ในสัดส่วน 1 ต่อ 10 คือ ปลูกทุเรียน 10 ต้นก็จะมีการปลูกไม้มะค่า หรือไม้ประดู่ ไม้แดง จำนวน 1 ต้นสลับกันไป จากนั้นชาวบ้านช่วยกันดูแลให้เป็นผืนป่าที่ยั่งยืนต่อไป และสำหรับสวนที่ปลูกผลไม้ไว้แล้วชาวสวนจะไม่ขายที่ให้นายทุน จะไม่รุกพื้นที่เพิ่มเติม และจะให้ความร่วมมือกับทางราชการทุกอย่าง
ด้านนายเรียน กุณจ๋า ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล กล่าวว่า เบื้องต้นมีชาวสวนทั้งตำบลแม่พูลตำบลฝายหลวงตำบลนานกกก อำเภอลับแล และชาวสวนจากตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มาร่วมลงชื่อเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าวทั้งหมดกว่า 3 พันครอบครัว คิดเป็นพื้นที่ทำสวนทั้งหมดจำนวนกว่า 5 หมื่นไร่ด้วยกัน
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนจากตำบลบ้านตึก ตำบลฝายหลวง และตำบลแม่พูลตำบลนา-นก-กก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จำนวนกว่า 3 ร้อยคน ได้รวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญวัดประทุมคงคา อ.ลับแล เพื่อขอให้ทางราชการผ่อนผันให้มีการทำกินในที่ดินต่อไปได้
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่เข้าไปปักป้ายยึดคืนที่ดินทำกินในผืนป่าต้นน้ำศรีสัชนาลัย ที่ถูกบุกรุกบริเวณบ้านแม่เทิน หมู่ 8 ต.แม่สิน และบ้านแม่คุ หมู่ 8 ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ไปจำนวน 27 แปลง และยังมีป้ายที่ยังไม่ได้ติดอีกทั้งหมดจำนวน 40 แปลง ทั้งยังมีกระแสข่าวอีกว่าจะมีการยึดคืนผืนที่ต่อเนื่องลงมายังเขตพื้นที่ตำบลฝายหลวง ตำบลแม่พูล และตำบลนานกกกด้วย โดยชาวบ้านพากันยืนยันว่าพื้นที่ทำกินที่ถูกปักป้ายยึดเหล่านี้ไม่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเพียงชาวสวนรายย่อยเข้าไปทำกิน และได้ปลูกทุเรียนจนได้ผลผลิตแล้ว
ต่อมา พ.ท.ไตรภพ เทพเทพา รองหัวหน้ากองการข่าว มทบ.35, พ.ต.อ.นิรันดร์ โรหิตาคนี ผกก.สภ.ลับแล, นายจรูญ ปัญญายงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล และนายลิ ทีกว้าง สจ.เขตอำเภอลับแล ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอว่าให้ทางการหยุดยึดคืนผืนป่าเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ และขอให้ทางการอนุญาตให้ชาวสวนเช่าพื้นที่เพื่อปลูกทุเรียนได้เหมือนกับทางภาคใต้ที่ภาครัฐได้เปิดพื้นที่ให้ชาวสวนในภาคใต้เช่าพื้นที่เพื่อปลูกสวนปาล์ม หรืออีกทางหนึ่งคือขอให้ทางการเปิดเป็นป่าชุมชน โดยให้ชาวสวนช่วยปลูกไม้ยืนต้นอื่นๆ สลับกับการปลูกทุเรียน ในสัดส่วน 1 ต่อ 10 คือ ปลูกทุเรียน 10 ต้นก็จะมีการปลูกไม้มะค่า หรือไม้ประดู่ ไม้แดง จำนวน 1 ต้นสลับกันไป จากนั้นชาวบ้านช่วยกันดูแลให้เป็นผืนป่าที่ยั่งยืนต่อไป และสำหรับสวนที่ปลูกผลไม้ไว้แล้วชาวสวนจะไม่ขายที่ให้นายทุน จะไม่รุกพื้นที่เพิ่มเติม และจะให้ความร่วมมือกับทางราชการทุกอย่าง
ด้านนายเรียน กุณจ๋า ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล กล่าวว่า เบื้องต้นมีชาวสวนทั้งตำบลแม่พูลตำบลฝายหลวงตำบลนานกกก อำเภอลับแล และชาวสวนจากตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มาร่วมลงชื่อเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าวทั้งหมดกว่า 3 พันครอบครัว คิดเป็นพื้นที่ทำสวนทั้งหมดจำนวนกว่า 5 หมื่นไร่ด้วยกัน