กาญจนบุรี - ชาวบ้านหวายเหนียว อำเภอท่ามะกา เดือดร้อนหนัก หลังกล้วยน้ำว้าราคาแพง ทำให้หัวขโมยอาละวาดฉวยจังหวะในช่วงเวลากลางคืนแอบเข้าไปตัดกล้วยไปขายถึงในสวน เผยคืนเดียวบางรายโดนตัดไปถึง 25 เครือ เคยจับตัวคนร้ายได้ส่ง ตร.แต่โดนปรับแค่ 500 บาท วอนตำรวจช่วยลาดตระเวนรักษาทรัพย์สินของชาวบ้านให้ด้วย
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมศักดิ์ วงษ์ศีล อายุ 57 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหวายเหนียว หมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่า ขณะนี้ในพื้นที่มีหัวขโมยออกอาละวาดตัดกล้วยน้ำว้าที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ในช่วงเวลากลางคืน เฉพาะของตนหายไปคืนเดียวถึง 25 เครือ สร้างความเดือดร้อนให้ตน และชาวบ้านเป็นอย่างมาก
หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ไปถึงพบ นายสมศักดิ์ วงษ์ศีล พร้อมด้วย นายบุญสม ภูแก้ว ผู้ดูแลสวนกล้วย รออยู่ที่หน้าบ้านเลขที่ 42 หมู่ 1 ต.หวายเหนียว ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวของ นายสมศักดิ์ สำหรับสวนกล้วยอยู่ด้านหลังบ้านมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
ระหว่างเดินสำรวจภายในสวนกล้วย นายสมศักดิ์ และนายบุญสม ได้อธิบายให้ทราบว่า ผู้ที่เข้ามาขโมยตัดกล้วยจะเลือกเอาเฉพาะเครือที่แก่แล้ว ส่วนเครือที่ยังไม่แก่พอก็จะถูกโน้มต้นลงมา บางต้นก็จะถูกตัดแต่ไม่เอากล้วยไปเนื่องจากยังไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ แต่เมื่อหัวขโมยตัดต้นกล้วยไปแล้วลูกของมันก็ไม่มีประโยชน์ จึงจำเป็นต้องทิ้งไว้ให้แห้งตายไปเอง
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ได้สังเกตพบว่า มีซากหนังปลาที่กินแล้วตกอยู่กับพื้น 1 ซาก จึงเชื่อได้ว่ากลุ่มหัวขโมยน่าจะซื้อปลาเผาที่มีอยู่ในพื้นที่มากินเป็นอาหารด้วย และที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่เคยจับหัวขโมยที่เข้ามาขโมยกล้วยของตนเองได้ และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ได้แค่เสียค่าปรับเป็นเงิน จำนวน 500 บาทเท่านั้น แล้วก็ปล่อยตัวไป สุดท้ายหัวขโมยเหล่านี้ก็ตระเวนลักลอบตัดกล้วยของชาวบ้านอีก ซึ่งส่วนใหญ่จะฉวยโอกาสเข้ามาตัดกล้วยในยามที่ชาวบ้านนอนหลับพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งก็ทำได้ง่ายเนื่องจากสวนกล้วยส่วนใหญ่มีทางสาธารณะตัดผ่าน
ปัจจุบัน กล้วยน้ำว้าหากมาซื้อถึงสวนจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 30-40 บาท ซึ่งถือว่าราคาแพงมาก โดยกล้วยแต่ละเครือจะมีตั้งแต่ 4 หวีขึ้นไป โดยแค่คืนเดียวหัวขโมยได้มาตัดกล้วยในสวนไปถึง 25 เครือ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
โดย นายสมศักดิ์ วงษ์ศีล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหวายเหนียว เปิดเผยว่า ตนปลูกกล้วยน้ำว้าเอาไว้ จำนวน 10 ไร่ หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เชื่อว่าสาเหตุการลักขโมยน่าจะมาจากการที่กล้วยน้ำว้ามีราคาแพง เหมาะสำหรับนำไปทำกล้วยปิ้งขาย ส่วนคนร้ายที่ชาวบ้านเคยจับกุมได้นั้นก็อยู่ระหว่างนำกล้วยไปขายให้แก่แม่ค้ากล้วยปิ้งตามริมถนน ซึ่งในพื้นที่เองก็มีร้านขายกล้วยปิ้งอยู่หลายแห่ง
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยทางด้านทรัพย์สินของชาวบ้านก็อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ประจำป้อมห่างออกไปประมาณ 400 เมตร ช่วยออกลาดตระเวนในยามค่ำคืน เพื่อสร้างความสบายใจให้แก่ชาวบ้านด้วย เพราะหากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ชาวบ้านที่ปลูกกล้วยเป็นอาชีพก็คงจะต้องได้รับความเดือดร้อนต่อไปอย่างแน่นอน