จันทบุรี - ชายวัย 53 ปี ออกเรือไปหาปลากลางทะเล หายไป 3 วัน พบว่ายังไม่กลับบ้าน สุดท้ายมีชาวประมงมาพบกลายเป็นศพลอยน้ำขึ้นอืดติดชายฝั่ง ตำรวจคาดน่าจะถูกคลื่นซัดเรือล่มก่อนจมน้ำเสียชีวิต
วันนี้ (18 ส.ค.) พ.ต.ท.จำนนท์ สมรส สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรขลุง ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิตขึ้นอืดลอยน้ำติดชายฝั่ง บริเวณบ้านคลองสอน หมู่ที่ 4 ตำบลวันยาว อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.จำนนท์ สมรส สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรขลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ขลุงมูลนิธิ ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบผู้เสียชีวิตเป็นชายลอยขึ้นอืดคว่ำหน้าติดอยู่บริเวณชายฝั่งป่าโกงกาง ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ต้องมีการนำผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนฝั่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ต่อมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายโยธิน พ่วงพี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 8 ตำบลวันยาว อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้เสียชีวิตไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับน้องสาว และมีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวานแต่ไม่รักษา ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตมักจะเป็นลมบ่อย คาดว่าการเสียชีวิตน่าจะเป็นลมกลางทะเลช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ประกอบกับช่วงนี้มีคลื่นลมแรงจึงทำให้เรือของผู้เสียชีวิตที่ออกไปหาปลาน่าจะถูกคลื่นซัดจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตยังเปิดเผยต่ออีกว่า ผู้เสียชีวิตได้ออกนำเรือหางยาวออกไปหาปลากลางทะเลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2559 ตั้งแต่เช้า โดยได้ออกไปหาปลาบริเวณปากแม่น้ำเวฬุตามปกติเช่นนี้เป็นประจำ แต่ทางญาติเห็นผิดสังเกตว่าผ่านไป 3 วัน แล้วทำไมผู้เสียชีวิตถึงยังไม่กลับบ้าน ญาติจึงออกตามหากันในทะเลที่ผู้เสียชีวิตเคยออกไปหาปลาประจำแต่ก็ไม่พบ จนมาในเช้าวันนี้ ได้มีชาวประมงมาพบผู้เสียชีวิตลอยน้ำติดอยู่ชายฝั่ง จึงได้ออกไปดู และพบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายโยธิน ญาติของตนเอง ก่อนที่จะโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว โดยทางญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของ นายโยธิน แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบศพให้แก่ทางญาตินำไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป