xs
xsm
sm
md
lg

โดนอีก! ศาลจังหวัดเลยไฟเขียวจับ “ธัมมชโย” รุกป่าภูเรือ สาวกโต้ทันควันหลวงพ่อไม่เกี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร รอง ผบก.ภว.จ.เลย
เลย - ศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับ “ธัมมชโย” ตั้งสวนป่าหิมวันต์ สาขาธรรมกายที่ภูเรือ พร้อมแจ้งข้อหาผ้ดูแล ฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ออกเอกสาร น.ส.3 ก. เป็นเท็จ รวมเนื้อที่ 129 ไร่ ด้านธรรมกายโต้ พื้นที่สวนป่าฯ ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมยืนยันธัมมชโยไม่เกี่ยวข้อง ขณะรองผู้การฯ เลย เผยภาพวาดบนพื้นห้วยข้าวมัน ส่อบุกรุกลำน้ำซ้ำ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 59 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจ ผสานกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าสวนป่าหิมวันต์ บ้านร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย หนึ่งในเครือข่ายวัดพระธรรมกายซึ่งรุกพื้นที่ป่าและที่มีการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น

โดยในวันนั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ได้ร่วมกันตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายข้างต้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 196/2559 ลง 13 ก.ค. 59 และหมายค้นจากศาลจังหวัดเลย ที่ 197/2559 ลง 14 ก.ค. 59 โดยพบมีการออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ เนื้อที่รวม 129 ไร่ โดยออกให้ในชื่อพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย อันเป็นความผิดฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่าฯ และมีความผิดตาม ม.9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ม.14

ล่าสุดวันนี้ (16 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร รอง ผบก.ภว.จ.เลย หัวหน้าทีมพนักงานสอบสวนคดีวัดป่าหิมวันต์ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสวนป่าหิมวันต์ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย ที่ศาลจังหวัดเลย อนุมัติออกหมายจับพระเทพาญาณมหามุนี หรือพระไพบูลย์ และวัดธรรมกาย และแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแล ร่วมยึดครอบครองทำประโยชน์ อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำโดยประกายใด อันเป็นการทำลายป่า และเป็นการเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ลงวันที่ 15 ส.ค. 2559 เลขที่ 174/59 และ 175/59

พ.ต.อ.ปิติพัฒน์เปิดเผยอีกว่า ในเรื่องนี้ทางการสอบสวนและหาหลักฐานของพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่เข้าตรวจยึด พบว่าสวนป่าหิมวันต์ ต.ร่องจิก มีการกระทำความผิดจริงจึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเลย ออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระไพบูลย์ และวัดธรรมกาย และแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแล ร่วมยึดครอบครองทางสอบสวนพบว่าก่อนที่จะมีการโอนโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 10 แปลง จำนวน 84 ไร่ รวมออกเป็นโฉนดฉบับเดียวเป็น 129 ไร่ เพิ่มขึ้น 45 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน นั้นถือว่าครอบครองโดยผิดกฎหมาย เมื่อวานนี้ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดเลยออกหมายจับ

โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดเลยได้ส่งหมายจับไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ เมื่อพบตัวพระเทพญาณมหามุนี ที่ใดก็สามารถจับกุมตัวได้ ส่วนการรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้อัยการฟ้อง คาดว่าจะสามารถรวบรวมเอกสารและหลักฐานให้แล้วเสร็จได้เดือนหน้า

ในส่วนนายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแลได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายศักดิ์ชายโดยไม่ได้ขอหมายจับ ในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถางป่าสงวน โดยมีอัตราจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ได้มีการแสดงภาพให้เห็นพื้นที่บุกรุกอีกจุดหนึ่งในบริเวณห้วยน้ำข้าวมัน ที่มีภาพวาดอยู่บนพื้นปูนที่กันลำน้ำ และหาเหตุเชื่อมโยงถึงการบุกรุกพื้นที่ลำน้ำอีกพื้นที่หนึ่งที่ต้องมีการดำเนินคดี

ด้านสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้แถลงข่าวในวันนี้ ปฏิเสธข้อกล่าวหาบุกรุกป่า จ.เลย โดยชี้แจงว่า 1. ขอยืนยันว่า พื้นที่ของสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 726 เล่ม 8 ก หน้า 26 เลขที่ดิน 87 หมายเลข 5247 แผ่นที่ 118 ตำแหน่งที่ดิน ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือจังหวัดเลย มีพื้นที่ 129 ไร่ ตามเอกสารทางราชการดังกล่าวนี้เท่านั้น ปัจจุบันผู้ครอบครอง คือ วัดพระธรรมกาย ไม่ใช่พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) แต่อย่างใด

จากการผสานกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 ของเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคง(กอ.รมน.) จังหวัดเลย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเรือ, เจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอภูเรือและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลร่องจิก ได้รับการยืนยันตามหนังสือราชการ ที่ ลย.0817/1992 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 จากนายอำเภอภูเรือ ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือดังกล่าว ระบุชัดเจนว่า พื้นที่ทั้งหมดของสวนป่าหิมวันต์ทั้ง 129 ไร่ อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ

ดังนั้น การกล่าวหาว่า สวนป่าหิมวันต์ หรือวัดพระธรรมกาย หรือพระเทพญาณมหามุนี บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นข้อกล่าวหาที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นการจงใจใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

2. ขอยืนยันว่า พื้นที่ 52 ไร่ นอกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 726 ไม่ใช่พื้นที่ของสวน ป่าหิมวันต์ หรือวัดพระธรรมกาย หรือพระเทพญาณมหามุนีแต่อย่างใด ปัจจุบันเป็นของนายศุภมิตร ชินวงศ์ ซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านแก่ง หมู่ 1 ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยได้ถูกจำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า ป่าภูเรือ(ป่าหมายเลข 23) ตามมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2532 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2532

ตามที่มีการนำเอาพื้นที่ดังกล่าวมากล่าวหา วัดพระธรรมกาย โดยพระเทพญาณมหามุนี หรือพระเทพญาณ มหามุนี ว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า ป่าภูเรือ จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นการกล่าวหาโดยมิชอบ ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดตามข้อเท็จจริง แต่กลับมีการรวบรัด เร่งรีบ ในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งไปยื่นขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี ต่อศาลจังหวัดเลย ทั้งที่ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น สวนป่าหิมวันต์ หรือวัดพระธรรมกาย หรือพระเทพญาณมหามุนี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพื้นที่ 52 ไร่ดังกล่าวเลย



กำลังโหลดความคิดเห็น