xs
xsm
sm
md
lg

แม่ผู้เป็นแบบอย่าง! ชาวบุรีรัมย์ยากจนเลี้ยงลูกพิการสมองด้วยความรักมา 17 ปีไม่เคยท้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสายบัว  ชุ่มเย็น  อายุ 50 ปี  ชาว อ.ห้วยราช  จ.บุรีรัมย์ ฐานะยากจน เป็นแม่สุดประเสริฐเลี้ยงลูกชายพิการสมองด้วยความรักมานานกว่า 17 ปี ไม่เคยย่อท้อหรือคิดทอดทิ้งลูกแม้ลำบากเหน็ดเหนื่อยเพียงใด  วัน ( 9 ส.ค.)
บุรีรัมย์ - เผยแม่ผู้เป็นแบบอย่าง! วัย 50 ปีชาวบุรีรัมย์ฐานะยากจน เลี้ยงลูกชายพิการสมองด้วยความรักเอาใจใส่มานานกว่า 17 ปีโดยเคยย่อท้อ แม้ลำบากเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนไม่เคยคิดทอดทิ้งลูก เผยปัจจุบันมีเพียงค่าแรงสามีไปรับจ้างก่อสร้างและเบี้ยคนพิการของลูกชายใช้จุนเจือครอบครัว ด้านเทศบาลฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมยกย่องเป็นแม่ดีเด่น

วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากพูดถึงบทบาทของผู้เป็นแม่คงไม่มีใครบรรยายได้ทั้งหมด เพราะนอกจากเป็นผู้ให้กำเนิดแล้ว ยังเป็นผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูสั่งสอนให้ความรักความเมตตาแก่ผู้เป็นลูกมากกว่าใคร อย่างเช่น นางสายบัว ชุ่มเย็น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.4 บ้านสะแกสามัคคี ต.สามแวง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ คนนี้เป็นแม่ที่สุดประเสริฐและเป็นแบบอย่างแก่สังคม

โดยนางสายบัวได้เลี้ยงดูนายจิณณวัตร ชุ่มเย็น หรือน้องต้น ลูกชายที่พิการสมองไม่ปกติหรือพัฒนาการช้ากว่าคนปกติทั่วไป ปัจจุบันน้องต้นมีอายุ 17 ปีแล้วแต่พัฒนาการทางสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ บางครั้งมีอารมณ์โมโหหงุดหงิดง่าย แม่ต้องพาไปรักษาและรับยาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ทุกๆ 3 เดือน

ทุกวันนี้นางสายบัวต้องคอยดูแลลูกเกือบทุกอย่าง ทั้งอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า หาข้าวและยาให้รับประทานตรงเวลา เพราะน้องต้นแทบจะทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ ผู้เป็นแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนนางสายบัวไม่สามารถไปทำงานหรือไปไหนไกลได้ หากจะไปต้องพาลูกชายไปด้วยเพราะเป็นห่วงไม่กล้าปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว

เนื่องจาก นายทองขาว ชุ่มเย็น สามี ต้องไปทำงานรับจ้างก่อสร้างเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวได้ค่าแรงวันละ 300-400 บาท ส่วนลูกชายคนโตไปรับจ้างต่างจังหวัดนานๆ จึงจะส่งเงินมาให้

นางสายบัว ชุ่มเย็น บอกว่า ลูกชายเริ่มมีอาการผิดปกติมาตั้งแต่เด็กแล้ว พยายามพาไปรักษาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ดีขึ้น พัฒนาการของลูกยังเหมือนเด็ก 4-5 ขวบ พาไปเข้าโรงเรียนใกล้บ้านก็หนีกลับบ้าน จึงตัดสินใจดูแลลูกชายด้วยตัวเองมาโดยตลอด เพราะคิดว่าพัฒนาการทางสมองคงไม่ดีขึ้นไปกว่านี้

ทุกวันนี้อาศัยค่าแรงของสามีที่ไปรับจ้างก่อสร้าง และเบี้ยคนพิการของลูกชายเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านและเลี้ยงดูลูกชาย

นางสายบัวบอกอีกว่า แม้จะลำบากหรือเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนไม่เคยคิดจะทอดทิ้งลูก และไม่คิดว่าเป็นภาระเลย แต่จะดูแลเขา ให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูกเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้ แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือหากพ่อกับแม่เป็นอะไรไปแล้วลูกชายจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร

ขณะที่ นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ นายกเทศมนตรีตำบลสามแวง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสามแวง ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมดูแลเรื่องสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของทั้งสองแม่ลูก พร้อมจะได้ประสานไปยังทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หาแนวทางช่วยเหลือด้านอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ นายเจษฎากรยังได้กล่าวชื่นชมนางสายบัวว่า เป็นแม่ที่เสียสละ อดทน และยกย่องให้เป็นแม่ผู้เป็นแบบอย่างของสังคมด้วย พร้อมทั้งฝากถึงลูกๆ หลานๆ ในยุคปัจจุบันด้วยว่า ไม่ควรจะทำให้พ่อแม่ต้องลำบาก หรือเสียใจ แต่ควรแสดงความรักความกตัญญูและสำนึกในพระคุณของบุพการี ให้เหมือนกับที่ท่านรักและเมตตาเรามากกว่าใคร





กำลังโหลดความคิดเห็น