เพชรบุรี - กลุ่มอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพชรบุรี เข้าร้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิดต่อ จนท.กรมศิลปากร ฐานบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานที่ตั้งอยู่ภายในวัดใหญ่สุวรรณาราม และวัดพระนอน จนได้รับความเสียหาย และซื้อเสาใหม่ 8 ต้นในราคาแพงกว่าปกติ ด้านผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ชี้เข้าข่ายผิดกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมแนะผู้ร้องทำหนังสือเป็นลายลักษ์อักษร ก่อนที่ทาง ป.ป.ช.จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดเพชรบุรี หรือ ป.ป.ช. กลุ่มอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพชรบุรี นำโดย ศาตราภิชานล้อม เพ็งแก้ว หรือนายล้อม เพ็งแก้ว นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ นายสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้น นายทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ และกลุ่มช่างอีกหลายคนได้เดินทางเข้าพบ นายพุทธา ศรีคำภา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดเพชรบุรี เพื่อร้องเรียน และปรึกษาข้อกฎหมายว่าจะสามารถเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้หรือไม่ อย่างไร หลังจากเกิดความเสียหายกรณีการบูรณะซ่อมแซมศาลาการเปรียญโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมศิลปากร ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม และหอไตรที่วัดพระพุทธไสยาสน์ หรือวัดพระนอน จนได้รับความเสียหาย
อีกทั้งเสาใหม่ที่นำมาบูรณะศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม และเปลี่ยนใหม่ที่หอไตรวัดพระนอน ก็คาดว่าจะซื้อมาแพงเกินไป รวมทั้งการซ่อมก็ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งความเสียหายได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว โดยเบื้องต้น เป็นการมาพูดคุยกันด้วยวาจา แต่ทางผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี จึงแนะนำให้ทางผู้ร้องได้ทำเป็นหนังสือแจ้งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวมาให้แก่ทาง ป.ป.ช. เพื่อที่ทาง ป.ป.ช.จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ศาตราภิชานล้อม เพ็งแก้ว หรือนายล้อม เพ็งแก้ว นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ทางกลุ่มอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพชรบุรี ต้องการมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เรื่องที่กรมศิลปากรไม่ได้เอาใจใส่ดูแลในการซ่อมบูรณะศาลาที่วัดใหญ่สุวรรณาราม โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามรายการ และใช้วิชาช่างที่ไม่ตรงกับรูปแบบตามที่โบราณได้ทำไว้ เช่น นำตะปูไปตีอัดบนไม้ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ในเมื่อมีการสั่งเปลี่ยนเสาใหม่ไปถึง 3 ต้น ที่ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม และเปลี่ยน 5 ต้น ที่หอไตรวัดพระนอน จะเปลี่ยนจริงหรือไม่นั้นกำลังติดตามตรวจสอบอยู่
“ที่สำคัญเสาที่ถูกนำมาเปลี่ยนนั้นถูกระบุว่าซื้อมาต้นละ 1 แสนบาท แต่เท่าที่ตรวจสอบเสาแต่ละต้นคำนวณอย่างไรราคาก็ไม่น่าจะสูงขนาดนั้น ซึ่งสงสัยว่าน่าจะมีค่าส่วนต่างอยู่ ทำให้เกิดการสงสัยว่าน่าจะส่อทุจริตแล้ว โดยส่วนต่างนั้นน่าจะเป็นการเลี้ยงช้างกินขี่ช้าง กรณีที่เกิดขึ้นได้เห็นชัดว่าเจ้าหน้าที่ที่กรมศิลปากรตั้งมาให้มากำกับดูแลนั้นกลับไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ เพราะระหว่างการซ่อมแซมบูรณะ ได้มีการลงไปตรวจสอบหลายครั้งไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ที่ถูกแต่งตั้งมาตรวจสอบดูแลเลย ถ้าผู้ตรวจสอบตั้งใจปฏิบัติหน้าที่จริงๆ คิดว่าผู้รับเหมาจะไปเอาเสาที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ได้อย่างไร ในสายตาของประชาชนเห็นว่าได้เกิดความผิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว เพราะถ้าหากไม่ผิดแล้วจะมีการสั่งให้เอาออกเปลี่ยนเสาใหม่ทำไม” ศาตราภิชานล้อม เพ็งแก้ว หรือนายล้อม เพ็งแก้ว นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ กล่าว
ด้าน นายพุทธา ศรีคำภา ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.เพชรบุรี กล่าวว่า การมาของกลุ่มศิลปินเมืองเพชรครั้งนี้เป็นการมาพูดคุยปรึกษาในการจะร้องเรียนเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานที่ตั้งอยู่ภายในวัดใหญ่สุวรรณาราม และวัดพระนอน จนได้รับความเสียหาย โดยได้มีข้อสงสัยว่า การดำเนินการของกรมศิลปากรไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การควบคุมดูแลไม่เป็นไปตามสัญญาทำให้เกิดความเสียหาย
“ถ้าเป็นหลักกฎหมายของ ป.ป.ช.จะเป็นเรื่องการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งได้แนะนำให้ผู้ร้องได้ทำหนังสือร้องเรียนมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีแบบการร้องเรียนของ ป.ป.ช.ให้แก่ผู้ร้องเรียนไป หลังจากที่ผู้ร้องนำหนังสือร้องมาถึง ป.ป.ช.แล้ว ทาง ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี จะนำมาพิจารณาตรวจสอบว่าเข้ากับกฎหมายหรือไม่ หากเข้าก็จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป” นายพุทธา ศรีคำภา ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.เพชรบุรี กล่าว