ศรีสะเกษ - ผอ.กต.ศรีสะเกษ มั่นใจใช้สิทธิออกเสียงประชามติ รธน. 7 ส.ค.นี้ สูงกว่าปี 2550 พร้อมประสานฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ทหารคุมเข้มรักษาความปลอดภัยหวั่นมีป่วน เผยผู้ว่าฯ ตั้งศูนย์ดูแลความสงบเรียบร้อยฯจังหวัด ด้านผู้การฯ สั่งให้ทุก สภ.จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันนี้ (3 ส.ค.) นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติมในวันที่ 7 ส.ค.นี้ จังหวัดศรีสะเกษได้ระดมทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ในส่วน กกต.ศรีสะเกษมีแผนการยุทธศาสตร์ดำเนินการโดยใช้เครือข่ายของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดศรีสะเกษ คือ คณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยประจำตำบล (สสพชต.) ทุกตำบลทั้ง 206 ตำบลๆ ละ 10 คน รวมทั้งสิ้น 2,060 คน ซึ่งได้ขับเคลื่อนแล้ว โดยการออกไปให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับร่างธรรมนูญในฐานะเป็นครู ค. ส่วนในสายของ กกต.เองได้ให้ลงไปในพื้นที่ ให้ไปให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนและชักชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิอย่างเต็มที่
นอกจากนี้แล้วยังมี รด.จิตอาสา ได้ประสานงานกับ มทบ.25 จัดกำลังทั้งสิ้นจำนวน 200 นาย ลงไปแจกแผ่นพับ ใบปลิว สาธิตการใช้สิทธิลงประชามติ และในวันที่ 7 ส.ค.นี้ กำลังชุดนี้จะได้มาปฏิบัติหน้าที่หน้าหน่วยลงคะแนน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย และยังมีลูกเสืออาสา กกต.จาก 44 สถาบันการศึกษา แต่วทางกระทรวงศึกษาธิการให้งบประมาณลงมาเพียง 9 สถาบันการศึกษา ซึ่งได้มีการประชุมกับทางโรงเรียนเพื่อจะได้จัดลูกเสือลงไปในพื้นที่ ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการใช้สิทธิลงประชามติ ซึ่งสื่อบุคคลเป็นส่วนที่สำคัญมาก
นายทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า ทาง กกต.ศรีสะเกษ ยังได้จัดรถประชาสัมพันธ์จำนวน 4 คันออกวิ่งตระเวนรณรงค์ไปทั่วทั้งเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และได้ประสานกับเครือข่าย อนุคณะกรรมการประจำอำเภอทั้ง 22 อำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นประธาน ได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ผ่านทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน รวมทั้งมีการตรวจสอบว่าในทุกครัวเรือนมีใครบ้างที่จะเป็นผู้มีสิทธิลงประชามติ
ทั้งนี้ จำนวนประชากรของ จ.ศรีสะเกษ มีทั้งสิ้นประมาณ 1,400,000 คน มีผู้มีสิทธิลงประชามติจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,100,000 คน ในจำนวนดังกล่าวนี้มีประชาชนที่มีสิทธิอยู่ในพื้นที่ประมาณ 70% คือ ประมาณ 800,000 คน ซึ่งได้ตั้งเป้าว่าการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปีนี้จะต้องสูงกว่าปี 2550 อย่างแน่นอน โดยในการลงประชามติ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2550 มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ประมาณ 51% เท่านั้น จึงเชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะต้องได้กว่า 60% ของผู้มีสิทธิทั้งหมด
นายทรงศักดิ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดตั้งศูนย์ดูแลความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติจังหวัดศรีสะเกษ โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน ในส่วนของตำรวจ ทาง พล.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น และยังมีการจัดหาข่าวต่างๆ เพื่อสืบสวนหาข่าวในเชิงลึกจะได้เป็นการเตรียมการป้องกันเหตุที่ผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
“อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการออกเสียงประชามติในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และการใช้สิทธิลงประชามติจะต้องสูงกว่าปี 2550 อย่างแน่นอน” นายทรงศักดิ์กล่าวในตอนท้าย
