นครปฐม - เทศบาลนครนครปฐม จับมือจังหวัดนครปฐม และ กกต.รวมพลังกว่า 1,000 คน เดินรณรงค์เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องออกมาใช้พลังสิทธิในการลงประชามติรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ตั้งเป้าหวังให้พลังสิทธิออกมาใช้เสียงถึงร้อยละ 80 ในพื้นที่ในวันที่ 7 ส.ค.สิงหาคมนี้ เพื่อให้ได้ผลที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ลานหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานปล่อยแถวนักเรียน นักศึกษา และ รด.จิตอาสาประชาธิปไตย เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ มี นายหมวดตรีเอกพันธ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีนครนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.ปิยชาติ รุจิระชุณห์ ผู้อำนวยการการออกเสียง จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจังหวัดนครปฐม ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม พ.ท.ณพัฒน์ ปกป้อง ผู้บังคับกองเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 เข้าร่วมเดินรณรงค์ในกิจกรรมดังกล่าว
นายหมวดตรีเอกพันธ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีนครนครปฐม กล่าวว่า เทศบาลนครนครปฐม เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตระหนักถึงกระบวนการประชาธิปไตย คณะผู้บริหาร ข้าราชการและนักเรียน นักศึกษา รด.จิตอาสาประชาธิปไตย ได้ออกมาร่วมกันเดินรณรงค์ให้พ่อ แม่ พี่น้องชาวจังหวัดนครปฐม โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครปฐม ตระหนักถึงหน้าที่ และชวนกันมาออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ และประเด็นเพิ่มเติมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยในวันนี้ได้เชิญชวนกลุ่มประชาชน นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ และเอกชนกว่า 1,000 คน มาร่วมในกิจกรรมซึ่งถือว่าจะเป็นการระดมพลังให้เกิดความตระหนัก และให้ความสนใจในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด
ซึ่งเทศบาลนครนครปฐม มีหน่วยออกเสียงประชามติทั้งสิ้น 104 หน่วย คาดหวังว่าจะมีประชากรในเขตเทศบาลมาออกเสียงลงประชามติกว่าร้อยละ 80 และบัตรเสียไม่เกินร้อยละ 3 โดยมีกรรมการชุมชนคอยเป็นพี่เลี้ยงช่วยให้ข้อมูล และทำความเข้าใจในการออกไปใช้สิทธิออกเสียง เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฯ และประเด็นเพิ่มเติมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรนั้นเป็นสิทธิ และเสียงของประชาชนทั้งสิ้น
นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมในการรณรงค์ครั้งนี้ ได้รับการส่งเสริม และร่วมมือกันในหลายๆ องค์กร ซึ่งเทศบาลนครนครปฐม เป็นหนึ่งในหลายๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้มีการเล็กเห็นถึงความสำคัญของการลงประชามติโดยประชาชน ซึ่งถือว่าประชาชนจะสามารถกำหนดทิศทางชีวิตความเป็นอยู่ได้ด้วยตัวเอง และเป็นสิทธิที่สำคัญ จึงควรเป็นอย่างยิ่งที่จะออกมาร่วมในการจัดลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้