xs
xsm
sm
md
lg

น่ารักอะ... อุดรธานีเปิดโรงเรียนผู้เฒ่า นักเรียนอายุมากสุด 87 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุดรธานี - เหมือน14 อีกครั้ง! ผู้สูงอายุนาพู่ชอบใจได้ไปโรงเรียนในวัยใกล้ฝั่ง การสอนหลักสูตรเน้นให้ความรู้สุขภาพกาย สุขภาพจิต การดูแลตัวเอง เผยยอดนักเรียนมีมากกว่า 400 คน อายุต่ำสุด 50 ปี สูงสุด 87 ปี

วันนี้ (1 ส.ค.) ณ อาคารอเนกประสงค์ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลนาพู่ โดยมีผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจจำนวนมาก

นายอำนวย อินทรราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาพู่ เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2547 และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แบบในปี 2567 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ เล็งเห็นสภาพปัญหาความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีภาวะถูกทิ้งให้อยู่กับบ้านเพียงลำพัง สาเหตุมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ลูกหลานต้องดิ้นรนออกไปประกอบอาชีพนอกบ้านจึงไม่มีเวลาดูแลพูดคุย ทำให้ผู้สูงอายุถูกละเลย เกิดอาการโรคซึมเศร้าตามมา บางรายเกิดความรู้สึกท้อแท้ รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์ต่อลูกหลาน และบางรายเกิดโรครุมเร้าร่างกาย ไม่มีชีวิตชีวาและเสียชีวิตในที่สุด

องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่จึงได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุขึ้น ภายใต้การสนับสนุนผลักดันจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุดรธานี โดยนำแนวทางของกรมกิจการผู้สูงอายุมาดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้สิ่งใหม่ มีโอกาสแสดงศักยภาพภูมิความรู้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาถ่ายทอดแก่บุคคลอื่น ปัจจุบันมียอดนักเรียนผู้สูงอายุแล้วกว่า 400 คน นักเรียนอายุต่ำสุด 50 ปี อายุสูงสุด 87 ปี จากยอดผู้สูงอายุในพื้นที่ทั้งหมด 1,245 ราย

นายเรวัตร อินทรสงเคราะห์ ครูใหญ่โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลนาพู่ เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดทำการสอนเดือนละ 2 ครั้ง สัปดาห์เว้นสัปดาห์ กำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุดนักเรียน โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากเครือข่ายหมุนเวียนมาบรรยายให้ความรู้ในแต่ละครั้งโดยเน้นความสุข เสียงหัวเราะของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ หลักสูตรการเรียนการสอนประกอบด้วย การอบรมให้ความรู้สุขภาพกาย สุขภาพจิต การดูแลตัวเอง และผู้อื่น การฝึกทักษะอาชีพ ทักษะการใช้ชีวิตเมื่อเข้าสู่สังคม การเยี่ยมบ้าน และการมีจิตอาสาตลอดจนการทัศนะศึกษาดูงาน ภายใต้ชื่อคำขวัญที่ว่า “แก่อย่างมีคุณภาพ ชราอย่างมีคุณภาพ”

นางคำใส บุตรแก้ว อายุ 62 ปี นักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลนาพู่ บอกว่า ตนเองมีลูกด้วยกัน 3 คน พอได้งานทำ ลูกๆ ต่างก็ย้ายออกจากบ้านไปไม่ค่อยมีเวลามาอยู่ด้วย อีกทั้งยังทิ้งหลานไว้ให้เลี้ยง 2 คน โดยแต่ละเดือนลูกจะติดต่อกลับมาเดือนละครั้ง บางคนถ้ามีเงินจึงมาเยี่ยม ส่วนมากจะติดต่อทางโทรศัพท์ ตอนนั้นก็รู้สึกเหงา เครียด ไม่มีความสุข แต่พอโรงเรียนผู้สูงอายุเปิดสอน ตนก็มีความสุขมาก ได้พบปะคนวัยเดียวกัน ความเครียดตอนอยู่บ้านเลี้ยงหลานก็หายไป มีความสุขที่ได้หัวเราะ และตื่นเต้นมากที่แต่งตัวชุดนักเรียน ตอนแรกก็อายๆ พอนานๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักดีเหมือนกับไปเป็นเด็กอายุ 14 อีกครั้ง
นายเรวัตร อินทรสงเคราะห์ ครูใหญ่โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลนาพู่







กำลังโหลดความคิดเห็น