พิษณุโลก - “วีกรุ๊ป” ดีลเลอร์รถยนต์ยักย์ใหญ่ จับมือ “วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก” ส่งผู้เชี่ยวชาญปั้นเด็ก ปวช.-ปวส. สัมผัส “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ผู้บริหารลั่น วันนี้เทคโนโลยีรถไฟฟ้าพร้อมแล้ว แต่ถามว่า “เมืองไทยพร้อมหรือยัง” บอกยังขาดช่างยนต์มีฝีมืออีกอื้อ
วันนี้ (1 ส.ค.) นายนคร อรุณมีศรี รองกรรมการผู้จัดการบริษัท วีกรุ๊ป มิตซูออโตเซลล์ จำกัด, นายจีระพงษ์ หอมสุวรรณ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก ได้ร่วมกันเปิดโครงการประสานความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคโนโลยียานยนต์ Mitsubishi และบำรุงรักษารถยนต์ ที่วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีนักศึกษาระดับ ปวส.แผนกช่างกล เข้าร่วมกับฟังบรรยาย-เรียนรู้ภาคปฏิบัติ เกี่ยวกับระบบ-เทคโนโลยีเครื่องยนต์ รวมถึงยานยนต์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นรถไม่มีเครื่องยนต์ ใช้งานในต่างประเทศแล้ว แต่เมืองไทยนั้นรัฐมนตรีอุตสาหกรรมได้กำหนดโควตานำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบยกเว้นภาษีนำเข้าศุลกากรเป็น 0% และลดภาษีสรรพสามิตเพียง 5,000 คัน
นายนคร อรุณมีศรี รองกรรมการผู้จัดการบริษัทวีกรุ๊ป มิตซูออโตเซลล์ จำกัด กล่าวว่า นักศึกษาที่เรียนสายเครื่องกลเดินมาถูกทางแล้ว ตลาดมีความต้องการสูง ไม่ต้องเสียดายที่ไม่ได้เรียนสายสามัญ วิชาแผนกเครื่องยนต์ถือว่าขาดแคลน โดยเฉพาะช่างยนต์ที่มีฝีมือขาดแคลนมาตลอด เช่น ช่างเครื่อง ช่างเคลม ช่างอะไหล่ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการ ฯลฯ รับประกันได้เลยว่า “นักเรียนว่าเรียนจบ มีงานทำแน่นอน รับรองว่าไม่ตกงาน”
นายนครบอกว่า ก่อนหน้านี้บริษัท มิตซูบิซิ ได้สนับสนุนเครื่องยนต์ใหม่ๆ ทั้งดีเซล และเบนซิน พร้อมแท่นเครื่องมาวางที่วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้จำนวน 2 เครื่อง กระทั่งวันนี้ก็ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญสายงานยานยนต์เข้ามายังวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลกเพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่รถยนต์ปัจจุบันใช้อยู่
ล่าสุดศิษย์เก่า วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลกซึ่งเป็นผู้จัดการโชว์รูมก็ยังนำความรู้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าในอนาคตมาอธิบายแก่ศึกษาอีกด้วย
“ถือเป็นครั้งแรกที่วีกรุ๊ปได้มีความร่วมมือกับวิทยาเทคนิคพิษณุโลก และอนาคตก็ยินดีสนับสนุนเครื่องยนต์ค่ายรถต่างๆ เช่น เอ็มจี, มาสด้า, เชฟโรเลต เพื่อนำมามอบให้นักศึกษาได้เรียนรู้ สัมผัสเครื่องยนต์จริงๆ”
สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงไฟฟ้า ถือว่าเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่งใหญ่ของวงการรถยนต์ หากนำมาใช้เชิงพาณิชย์ ซึ่งในต่างประเทศวิ่งกันอยู่มาก แต่เมืองไทยต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยน เนื่องจากกระทบไปหลายวงการ อาทิ บุคคลกรวงการน้ำมัน แทบจะต้องเปลี่ยนอาชีพ, ผู้ค้าอะไหล่รถยนต์ระบบน้ำมัน จะต้องปรับเปลี่ยน, ช่างฝีมือเอง จะต้องเรียนรู้กันใหม่, นักเรียนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเองก็ต้องปรับตัว แผนกวิชาเครื่องยนต์ อาจปรับไปเรียนวิชาขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม “วีกรุ๊ป” เป็นเพียงผู้จัดจำหน่าย แค่เรียนรู้สินค้าตัวใหม่เท่านั้น แต่เชื่อว่าภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ วงการรถยนต์ จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงพาณิชย์ ยานยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งบนท้องถนน ส่วนที่กังวลว่าไม่มีสถานีบริการเติมไฟฟ้ารองรับ เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะมีปลั๊กไฟที่ใดก็เติมเชื้อเพลิงไฟฟ้าได้
“อนาคตชาร์จไฟรถยนต์ก็เหมือนมือถือเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วิ่งได้กว่า 100 กิโลเมตร รถยนต์บางยี่ห้อใช้วิธีชาร์จไฟคืนเข้าสู่ระบบลักษณะปั่นไฟ บางค่ายรถยนต์เพียงแค่วิ่งไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีบริการเท่านั้น วันนี้เทคโนโลยีพร้อมแล้ว แต่ต้องถามว่าประเทศไทยพร้อมรึยัง” นายนครกล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายศิริพงษ์ กุลฉิม อาจารย์แผนกเครื่องกล วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก กล่าวว่า ทุกปีมีนักศึกษาสายช่างเครื่องกลเรียนจบระดับ ปวส. 300 คน และ ปวช.400 คน ทุกคนมีงานทำหากไม่เลือกงาน โดยที่ผ่านมาพบว่านักศึกษาวางเป้าหมายชีวิต คือ จบ ปวส.แล้วเรียนต่อในระดับปริญญาตรีอีก 3 ปี ที่เหลือทำงานบริษัทเอกชน อาทิ ช่างเครื่องยนต์ค่ายรถยนต์ต่างๆ มีเพียงส่วนน้อยที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
อนึ่ง บริษัทวีกรุ๊ป คาร์ มีโชว์รูมรถยนต์ทั้งหมด 48 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น วีกรุ๊ปมาสด้า 13 สาขา, วีกรุ๊ปเชฟโรเลต 14 สาขา, วีกรุ๊ปมิตซูบิซิ 5 สาขา, วีกรุ๊ปเอ็มจี 5 สาขา, วีกรุ๊ปฟอร์ด 1 สาขา, วีกรุ๊ปฮุนได 1 สาขา และวีกรุ๊ปยูสคาร์ 9 สาขา