ศรีสะเกษ- พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูกชาย นักเรียน ป.2 จมน้ำตายในสระว่ายน้ำของโรงเรียนดังศรีสะเกษ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ท่ามกลางคณะครูและนักเรียนเพื่อนร่วมชั้นแห่ไว้อาลัย ขณะ ตร.เร่งสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตาม กม. ขณะ แพทย์ รพ.ศรีสะเกษเผยวินาทีสุดยื้อชีวิต พร้อมฝากเตือนพ่อแม่อย่าปล่อยบุตรหลานเล่นน้ำตามลำพัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเด็กชายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2/2 โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้จมน้ำเสียชีวิตภายในสระว่ายน้ำของโรงเรียนระหว่างที่เรียนว่ายน้ำหลังเลิกเรียนเพื่อรอผู้ปกครองมารับ ซึ่งแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลศรีสะเกษได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถช่วยได้ทำให้เสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์เกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ค.) ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ่อแม่พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้นำศพของเด็กชายหนึ่งจากโรงพยาบาลศรีสะเกษมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยมีคณะครู และนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ เพื่อนร่วมชั้นเรียนมาร่วมไว้อาลัยด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด
พ่อแม่ของเด็กชายหนึ่งน้ำตาไหลนองหน้าที่ต้องสูญเสียลูกชายและอยู่ในอาการโศกเศร้าตลอดเวลา บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่าเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเป็นเหตุการณ์สุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ทางด้าน ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าของคดีกล่าวว่า คดีนี้จะได้เชิญ นายอภิวัฒน์ แสนคุ้ม ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดูแลสระว่ายน้ำ ครูผู้สอนว่ายน้ำ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เด็กชายหนึ่งเสียชีวิต โดยขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อใคร จะต้องสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเสียก่อนซึ่งจะได้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้นำเสนอสำนวนคดี ให้ พ.ต.อ.อัยรัช ชินประยูร ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกันนี้ (27 ก.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 โรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้แถลงข่าวถึง สาเหตุการเสียชีวิต ของเด็กชายหนึ่ง (นามสมมุติ) นักเรียน ชั้น ป.2 โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ ว่าหลังจากเกิดเหตุ ผู้ป่วยเดินทางมาถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ 16.50 น. จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ผิวหนังซีดเซียว ไม่หายใจ คลำชีพจรไม่ได้ ไม่สามารถตอบสนองต่อความเจ็บปวด รูม่านตาขยายเต็มที่และไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง เจ้าหน้าที่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจให้แก่ผู้ป่วยตั้งแต่อยู่ที่เกิดเหตุ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์เร่งให้การช่วยเหลือ
นพ.ชลวิทย์กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลแพทย์และพยาบาลได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเร่งด่วนเพื่อยื้อชีวิต โดยให้ยากระตุ้นการทำงานของหัวใจนานประมาณ 50 นาที ทำให้ผู้ป่วยมีอาการตอบสนอง และชีพจรเต้นอยู่ที่ 125 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 105/60 มม.ปรอท แต่รูม่านตายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสง
หลังจากนั้นเวลา 18.00 น. แพทย์จึงได้พิจารณาย้ายผู้ป่วยเข้าไปรักษาต่อ ณ หอผู้ป่วยหนัก 1 แต่หลังจากนั้น ประมาณ 5 นาที ปรากฏว่าผู้ป่วยได้หยุดหายใจ แพทย์และพยาบาลระดมสรรพกำลังเพื่อยื้อชีวิตผู้ป่วยให้ฟื้นอีกครั้งนานประมาณ 30 นาที แต่ไม่เป็นผล และเสียชีวิตในเวลา 18.37 น. และขอแสดงความเสียใจต่อทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งทางแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือแล้วอย่างสุดความสามารถ
“ขอฝากเตือนผู้ปกครองให้ช่วยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนมีน้ำขังตามแหล่งน้ำต่างๆ ส่วนใหญ่ในวันหยุดเรียนเด็กๆ จะชอบชักชวนกันไปเล่นน้ำ จนเกิดการจมน้ำเสียชีวิตขึ้น เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี อยากให้ผู้ปกครองได้สอดส่องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และไม่ควรให้บุตรหลานเล่นน้ำอยู่เพียงลำพัง ควรมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยตลอดเวลาเมื่อเด็กลงเล่นน้ำ” นพ.ชลวิทย์กล่าวในตอนท้าย
