MGR Online - แม่บ้านโรงเรียนดังย่านประชาชื่นกะระโดดตึกชั้น 5 ร่างกระแทกพื้นดับอนาถ ด้านครูเผยเห็นยืนเหม่อร่วม 10 นาที ก่อนได้ยินเสียงคล้ายวัตถุตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง ขณะที่สามีผู้ตายเผยทะเลาะกับน้องชายเรื่องยืมเงินถูกว่ากลับมา คาดอาจจะเกิดอาการน้อยใจ
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.สุรกิจ สุดตานา รอง สว. (สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุมีผู้พลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในโรงเรียนราชนันทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย 2 (สอนระดับมัธยมต้น-ปลาย) ถนนประชาชื่น แขวง/เขตบางซื่อ กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส.สน.เตาปูน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุที่บริเวณหน้าเสาธง ด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีความสูง 9 ชั้นครึ่ง เจ้าหน้าที่พบศพหญิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วราศิริ ศรีอ่ำอ่วม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/47 หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู ใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สภาพนอนตะแคงขวา ศีรษะแตก ขาซ้ายหักผิดรูป นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ข้างตัวพบกล่องเหล็กขนาดเล็ก ภายในบรรจุบุหรี่ 4 มวน เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนต้องนำเต็นท์ผ้าใบมาคลุมศพไว้ พร้อมปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้นักเรียนมุงดู ก่อนจะพานักเรียนไปเข้าชั้นเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความแตกตื่นตกใจ
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงประมาณ 09.00 น. มีครูของโรงเรียนเห็น น.ส.วราศิริ ซึ่งเป็นแม่บ้าน ยืนอยู่บริเวณระเบียงชั้นที่ 5 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ แต่ไม่ได้เอะใจเนื่องจากลักษณะเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที มีพยานได้ยินเสียงเหมือนมีวัตถุขนาดใหญ่ตกลงพื้น จึงลงมาตรวจสอบก็พบ น.ส.วราศิรินอนเสียชีวิตแล้ว
ด้าน ร.ต.อ.สุรกิจกล่าวว่า จากการสอบสวน นายวรวิทย์ ศรีอ่ำอ่วม อายุ 62 ปี สามีของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.วราศิริเคยมีเรื่องทะเลาะกับน้องชายที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่รู้เรื่องอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ตายได้ติดต่อไปหาน้องชายดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องเงินประมาณ 1,000-2,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายทั่วไป (ไม่มีหนี้สิน) แต่กลับถูกปฏิเสธ แถมโดนด่าทอกลับมา จึงคาดว่า น.ส.วราศิริอาจเกิดอาการน้อยใจ เลยตัดสินใจกระโดดจากระเบียงลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นญาติไม่ติดใจเรื่องคดี เจ้าหน้าที่จึงส่งศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนประสานญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาต่อไป