หัวอกแม่! ร้องสื่อพ่อเพื่อนลูกทำร้ายลูกชายบนห้องเรียนหลังเข้าใจผิด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ปกครองโรงเรียนชุมชนบ้านหนองปรือ ร้องสื่อ ลูกชายถูกพ่อเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกายกลางห้องเรียน ผอ.โรงเรียนชี้เป็นความผิด หากผู้ปกครองเอาเรื่องสามารถดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้ ขณะที่ทางโรงเรียนรายงานไปให้ส่วนกลางรับทราบแล้ว ชี้โรงเรียนไม่ปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุร้าย พร้อมหามาตรการป้องกันหวั่นซ้ำรอย

วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยาได้รับการร้องเรียนจาก นางภาณี (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า บุตรชายซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนชุมชนบ้านหนองปรือ ถูกผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้นเรียนทำร้ายร่างกายด้วยการตบอย่างแรงจนเกิดความหวาดผวา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นางภาณี กล่าวว่า บุตรชายคือ ด.ช.บิ๊ก (นามสมมติ) เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 วันเกิดเหตุคือ วันอังคารที่ผ่านมา หลักเลิกเรียนบรรดาเด็กๆ ได้เล่นตามประสาเพื่อรอผู้ปกครองมารับอยู่ในห้องเรียน ขณะนั้นมีเพื่อนในห้องหลายของ และ ด.ช.บิ๊ก ลูกชายพบว่า ถุงขนมของตนเองถูกบีบ จึงเข้าใจผิดคิดว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมชั้นทำเลยเอากระเป๋านักเรียนไปแอบ ด.ญ.เอ จึงฟ้องบิดาที่มารอรับว่าถูก ด.ช.บิ๊ก แกล้ง บิดาของเด็กหญิงคนดังกล่าวซึ่งมีอารมณ์โหดร้ายจึงได้เดินขึ้นห้องมาตบบริเวณศีรษะ ด.ช.บิ๊ก อย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อสอบถามทราบเรื่องจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม

สอบถาม น.ส.สาริสา เกตุเมฆ ครูประจำชั้นของห้องเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองนำนักเรียนมาทำกิจกรรมอยู่ชั้นล่างจึงไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อรับทราบเรื่องก็ได้โทรศัพท์ติดต่อบิดาของ ด.ญ.เอ ทันที เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่บิดาของ ด.ญ.เอ รับสายแล้วตอบว่า จะเข้ามาพูดคุยแต่ก็ไม่ได้เข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงเพราะขณะเกิดเหตุมีเพื่อนนักเรียนอยู่ในห้องเป็นจำนวนมาก

นางนวลนภา ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหนองปรือ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว และได้รายงานไปยังสำนักการศึกษาเขตพื้นที่อำเภอบางละมุง ด้วยวาจาไปแล้ว และจะได้ทำหนังสือส่งตามไปอีกครั้ง ขอยืนยันว่า มาตรการป้องกันความปลอดภัยของโรงเรียนถือว่าค่อนข้างรัดกุมอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะควบคุม ถือเป็นความผิดที่ผู้ปกครองจะแจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ประชุมผู้ปกครองเพื่อหาแนวทางป้องกันไม้ให้เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีกได้ต่อไป