ตร.ท่องเที่ยวเชียงใหม่ตั้งโต๊ะแจงจับไกด์สาว แค่เตือนสวมชุดไทยแต่ใส่รองเท้าสานผิดระเบียบ

เชียงใหม่ - ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ยกทีมตั้งโต๊ะแจง หลังนักวิชาการโพสต์วิจารณ์จับไกด์สาวใส่ชุดไทยพานักท่องเที่ยวเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพแล้วโดนจับจนถูกวิจารณ์เละ ยันแค่ตักเตือนฐานใส่รองเท้าสานเปิดหลังเท้าผิดระเบียบ

วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.ท.ณรงค์พล พิมลศิริ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1, พ.ต.ต.พิษณุ เตรียมดี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 4 หรือตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ร่วมกันออกมาชี้แจงกรณีที่มีการนำภาพไกด์สาวแต่งกายชุดไทย นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ และถูกตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่จับกุมเนื่องจากแต่งกายไม่เหมาะสมเผยแพร่ จนมีบุคคลหลายกลุ่ม รวมถึงนักวิชาการแสดงความคิดเห็นในทางลบต่อตำรวจท่องเที่ยว

โดยได้มีการชี้แจงว่า เหตุเกิดต้นเดือนกรกฎาคม 59 ที่ผ่านมา ทางตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้เข้าไปตักเตือนไกด์สาวคนดังกล่าวที่สวมรองเท้าไม่ถูกระเบียบ ตาม พ.ร.บ.ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ระบุไว้ว่า รองเท้าที่สวมจะต้องเป็นรองเท้าคัตชู แต่ไกด์สาวคนดังกล่าวสวมรองเท้าสานหุ้มส้นแต่เปลือยหลังเท้า แต่ไม่มีการบอกละเอียดเรื่องดังกล่าว มีแต่บอกว่า “แต่งชุดไทยแล้วถูกจับกุม” ซึ่งไม่เป็นความจริงเป็นแค่การตักเตือนให้แต่งกายให้ถูกระเบียบเท่านั้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่าตำรวจท่องเที่ยวมีความยินดีอยู่แล้วที่มีการแต่งชุดไทย เป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทย แต่รองเท้าที่สวมควรจะต้องถูกต้อง และเหมาะสมด้วย จึงขอชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ เพื่อไม่ให้มองตำรวจท่องเที่ยวในทางลบ หรือเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ทางไกด์สาวคนดังกล่าวได้ชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์ว่า วันดังกล่าวแต่งชุดไทยและสวมรองเท้าสานจริง และตำรวจไม่ได้มีการจับกุมเพียงแต่ตักเตือนเท่านั้น และใช้วาจาสุภาพด้วย และภาพที่มีการนำไปลงก็ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด พร้อมทั้งฝากขอโทษตำรวจท่องเที่ยวและประชาชนด้วย

พ.ต.ท.ณรงค์พล พิมลศิริ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจ 1 กองกำกับการตำรวจท่องเที่ยว 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับผู้ที่วิจารณ์ในเรื่องที่ไม่จริงไปแล้ว และยอมรับว่าใจร้อนเกินไป ส่วนจะมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนทางนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านผ้า ที่มีการวิจารณ์เช่นเดียวกัน ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ แต่ทางผู้บังคับบัญชาคงจะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป

“ต้องขอความเป็นธรรมให้กับตำรวจท่องเที่ยวด้วย เราคำนึงถึงภาพลักษณ์ และส่งเสริมอนุรักษ์ความเป็นไทยเพื่อการท่องเที่ยวอยู่แล้ว”

อนึ่ง อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนเรื่องตำรวจท่องเที่ยวจับกุมไกด์สาวข้อหาแต่งกายผิดระเบียบ “กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เนื่องจากผมได้รับข้อความร้องเรียนจากมัคคุเทศก์สตรีทางภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าถูกตำรวจท่องเที่ยวจับในข้อหาแต่งกายผิดระเบียบของมัคคุเทศก์

ซึ่งระเบียบการแต่งกายของมัคคุเทศก์ในปัจจุบันนี้มีความลักลั่นอยู่เป็นอันมาก ขัดต่อนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในอันที่จะส่งเสริมการแต่งกายแบบไทย และการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง ฯพณฯ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมก็ได้สนองนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอย่างเข้มแข็งด้วยดียิ่งเสมอมา จนปัจจุบันมีคนไทยสนใจเข้าร่วมการแต่งกายด้วยผ้าไทย ผ้าทอมือ และชุดไทย ในชีวิตประจำวันเป็นจำนวนเพิ่มมาก เป็นผลจากนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

แต่ด้วยข้อกฎหมายที่ล้าสมัยของตำรวจท่องเที่ยว ทำให้นโยบายของ ฯพณฯ ท่านทั้งสองไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างเต็มที่ตามเป้าหมาย กระผมใคร่กราบขอความกรุณาต่อ ฯพณฯ ท่านทั้งสองได้โปรดบูรณาการนโยบายนี้ร่วมกับ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ด้วย เพราะ พ.ร.บ.นี้ออกมานานมากแล้ว และยังไม่ได้รับการปรับปรุง และเป็นจุดอ่อนต่อนโยบายของ ฯพณฯ ทั้งสองครับ”

นอกจากนี้ยังหยิบยกระเบียบการแต่งตัวของไกด์ตาม พ.ร.บ.ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ 2557 หมวดมาตรา 66 และระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2556 หมวด 2 ข้อ 8 ที่กำหนดให้มัคคุเทศก์ต้องแต่งกายสุภาพ คือ 1. สวมเสื้อมีปก และชายเสื้ออยู่ในกางเกง เว้นแต่เสื้อตามธรรมเนียมประเพณี 2. กางเกงขายาว หรือกระโปรง 3. รองเท้าหุ้มส้น ขึ้นมาโพสต์ประกอบด้วย