บุรีรัมย์ - ตร.บุรีรัมย์เร่งล่าตัวมิจฉาชีพสาวใหญ่ตามภาพวงจรปิด หลังทำทีตีสนิทพนักงานขายกาแฟหน้าตลาดไลฟ์ลี่และหลอกล่อขายสลากอ้างชิงรางวัลเงินสดและทองคำ แล้วเอื้อมมือจับแขนเหยื่อจนมีอาการเคลิ้มคล้ายถูกวางยา ก่อนฉกเอาเงินและโทรศัพท์มือถือหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พงศกร อ่อนสลวย ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมตำรวจชุดสืบได้เข้าตรวจสอบร้านกาแฟชื่อร้าน “นาฬิกาแฟ” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าตลาดไลฟ์ลี่ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพสาวอายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างอวบ ผิวขาว แต่งตัวดี ก่อเหตุฉกเอาโทรศัพท์มือถือและเงินสดของ น.ส.วันวิสา เพชรหงค์ อายุ 27 ปี พนักงานร้านขายกาแฟดังกล่าวไป
โดยมิจฉาชีพสาวคนดังกล่าวมีพฤติกรรมทำทีมาตีสนิทกับ น.ส.วันวิสา ผู้เสียหาย ขณะอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จากนั้นหลอกล่อให้ซื้อสลากอ้างเป็นสลากชิงรางวัลเงินสดและทองคำ ก่อนเอื้อมมือไปจับแขน น.ส.วันวิสา สักพักเกิดอาการเคลิ้มคล้ายกับถูกวางยา ก่อนที่มิจฉาชีพสาวคนดังกล่าวจะฉกเอาเงินสดจำนวน 1,000 บาทที่ได้จากการขายกาแฟ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง กาแล็กซี่ มูลค่า 4,900 บาทไปโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัวแล้วเดินหนีหายไป กว่าที่ น.ส.วันวิสาจะรู้ตัวผ่านไปเกือบชั่วโมง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบก็พบว่ากล้องวงจรปิดของทางตลาดไลฟ์ลี่สามารถบันทึกภาพมิจฉาชีพสาวคนดังกล่าวได้ขณะเดินออกจากร้านกาแฟซึ่งตรงกับรูปพรรณที่ผู้เสียหายให้การ
ขณะที่ น.ส.วันวิสา ผู้เสียหายได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ด้วยอาการมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากมิจฉาชีพสาวคนดังกล่าวมาพูดคุยตีสนิทหลอกลวงให้ซื้อสลากลุ้นรางวัล ตอนแรกไม่ได้คล้อยตาม แต่พอหญิงคนดังกล่าวเอื้อมมือมาจับแขนรู้สึกเคลิ้มคล้ายกับถูกวางยา มึนๆ งงๆ อยู่พักหนึ่ง และไม่รู้ว่าถูกฉกเงินและโทรศัพท์ไปตอนไหน มารู้ตัวอีกทีคนก่อเหตุก็หลบหนีไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจากข้อมูลทราบว่าก่อนหน้านี้มีบุคคลในลักษณะดังกล่าวใช้พฤติการณ์คล้ายกันไปหลอกฉกเอาทรัพย์สินของเหยื่อในพื้นที่ใกล้เคียงมาแล้วซึ่งจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก