บุรีรัมย์ - รวบแล้วคนร้ายใจบาปออกตระเวนก่อเหตุหลอกเชิดผ้าไตรเจ้าอาวาส 2 วัดดังบุรีรัมย์ รวมกว่า 10 ผืน มูลค่ากว่า 23,000 บาท หลบหนีลอยนวล เผยจับกุมได้ และถูกดำเนินคดีอยู่ที่กาญจนบุรี พบประวัติโชกโชนก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวหลายพื้นที่ และมีหมายจับ 3 หมาย
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายใจบาปขับรถยนต์เก๋งออกตระเวนก่อเหตุหลอกนิมนต์พระสงฆ์วัดหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยอ้างว่า จะนิมนต์ไปฉันเพลงานทำบุญบ้าน และบุญกระดูก จากนั้นจะออกอุบายขอบูชาผ้าไตรเพื่อเตรียมถวายพระในวันงาน แต่เมื่อได้ผ้าไตรไปแล้วหลอกว่าจะนำปัจจัยมาถวายให้ภายหลัง จากนั้นหลบหนีลอยนวล เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีเจ้าอาวาสวัดตกเป็นเหยื่อ 2 แห่ง คือ วัดหนองหัวลิง และวัดสว่างอารมณ์ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 23,000 บาทนั้น
ล่าสุด หลังจากพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก น.ส.อภันตรี วงษ์ท่าเรือ ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กธ 5112 กาญจนบุรี ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิดที่ทางวัดบันทึกไว้ ได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนประกอบธุรกิจให้เช่ารถยนต์ โดยรถคันดังกล่าว นายกฤษณะ นุ่มน่วม อายุ 24 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เป็นผู้เช่าไป
จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ใกล้เคียงช่วยติดตามตัว กระทั่งล่าสุด ตำรวจ สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี สามารถจับกุมตัว นายกฤษณะ ได้พร้อมรถเก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบสวน นายกฤษณะ รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุหลอกพระในลักษณะดังกล่าวทั้งพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และอีกหลายจังหวัดจริง
ทั้งนี้ จากการสอบประวัติยังพบว่า นายกฤษณะ มีหมายจับอยู่ จำนวน 3 หมาย ในท้องที่ จ.สระบุรี และ จ.กาญจนบุรี และล่าสุด ขณะนี้ได้ถูกแจ้งข้อหา “ฉ้อโกง” ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี
ด้าน พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมการก่อเหตุของมิจฉาชีพที่ตระเวนหลอกลวงพระเป็นการกระทำผิดเข้าข่ายฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำผิด แต่ในส่วนของวัด 2 แห่งที่บุรีรัมย์ ไม่ติดใจเอาความ แต่ที่ จ.สระบุรี และ จ.กาญจนบุรี ผู้เสียหายได้แจ้งความเอาผิดต่อผู้ก่อเหตุ จึงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในท้องที่นั้นๆ ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม แม้คนร้ายรายนี้จะถูกจับกุมได้แล้ว แต่ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนวัดต่างๆ ให้ระมัดระวังกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่จะมาในรูปแบบต่างๆ หากพบบุคคลต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก