ลำปาง - สองแม่ลูกชาวลำปางเข้าใจผิด เห็น “เห็ดขี้ควาย” โผล่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านคิดว่าเป็น “เห็ดแพ้ด” ลงมือเก็บมาแกงเป็นมื้อเย็น แต่กินเข้าไปได้ไม่นานกลับเวียนหัว อาเจียน ต้องแจ้ง จนท.หามส่งโรงพยาบาล โชคดีถึงมือหมอเร็ว
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลลำปางหลวง ได้นำตัวนางฉลวย ทิพย์ศรีบุตร อายุ 55 ปี และนายอุกฤษฎ์ ทิพย์ศรีบุตร อายุ 33 ปี สองแม่ลูก อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านม้าเหนือ ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ส่งเข้ารักษาตัวที่ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน รพ.เกาะคา จ.ลำปาง อย่างเร่งด่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และอาเจียน หลังกินเห็ดไม่ทราบชนิดเข้าไป
จากการสอบถามเพื่อนบ้านของผู้ป่วยที่ได้ติดตามมาส่งที่โรงพยาบาลทราบว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ก.ค.ทราบว่า 2 แม่ลูกได้พากันไปเก็บเห็ดที่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ที่ทางภาคเหนือเรียกว่า “เห็ดแพ้ด” แต่เห็ดที่เก็บมานั้นเป็นเห็ดที่ออกบริเวณที่สัตว์ถ่ายมูลทิ้งไว้ เรียกว่า “เห็ดขี้ควาย” ซึ่งเป็นเห็ดพิษที่มีลักษณะคล้ายกับเห็ดแพ้ดที่กินได้
จากนั้นก็ได้นำเห็ดดังกล่าวมาแกงกินเป็นอาหารเย็นกินกันในครอบครัว คือ นางฉลวย และนายอุกฤษฎ์ และลูกสะใภ้ (ภรรยาลูกชายคนเล็กของนางฉลวย) จนจะเกิดอาการอาเจียนอย่างรุนแรง และอ่อนเพลีย จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว ขณะที่ลูกสะใภ้คนเล็กของนางฉลวย ที่ได้กลับบ้านไปก่อนแต่ก็เกิดอาการลักษณะเดียวกัน จึงได้แนะนำให้ไปหาหมอ
ด้าน นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน จะมีเห็ดออกมาจำนวนมาก โดยเห็ดทั่วไปที่พบและชาวบ้านรู้จักสามารถนำมารับประทานได้ก็คือ เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดถอบ เป็นต้น แต่เห็ดป่าที่ไม่รู้จัก หรือมีสีสันฉูดฉาดไม่ควรนำมารับประทานเพราะอาจจะเป็นเห็ดที่มีพิษ ซึ่งหลังจากรับประทานไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นต้นไปจะมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียน และแขนขาอ่อนแรง หากเกิดอาการดังกล่าวให้รีบมาพบแพทย์โดยด่วนเพื่อจะได้ทำการรักษา ซึ่งถ้ามาช้าอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่กินเห็ดพิษ 2 รายนี้ถือว่าโชคดีที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทำให้แพทย์สามารถรักษาจนอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ (3 ก.ค.) แล้ว
