บุรีรัมย์ - สนช.ร่วมกับ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สถาบันพระปกเกล้า วัดราชาธิวาสวิหาร และปศุสัตว์ ทำพิธีมอบโคเพศเมีย ตามโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ที่ จ.บุรีรัมย์ นำไปเลี้ยงและใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร
วันนี้ (30 มิ.ย. 59) พล.ร..วีระพันธ์ สุขก้อน โฆษกคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีมอบโคเพศเมียจำนวน 54 ตัว ให้แก่เกษตรกร อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่มีฐานะยากจนไม่มีโค-กระบือเป็นของตัวเอง นำไปเลี้ยงและใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร โดยมีนายประภาส รักษาทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายพจน์พิรัตน์ เนียมจุ้ย ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์, พร้อมด้วยนายอำเภอหนองกี่ หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี
ขณะเดียวกัน ผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกันประกอบถวายพระพรต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
โดยพิธีส่งมอบโค-กระบือในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สถาบันพระปกเกล้า วัดราชาธิวาสวิหาร และปศุสัตว์ได้จัดทำโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
โดยเกษตรกร อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับมอบโคเพศเมียทั้ง 54 ราย ได้ร่วมกันกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ ว่าจะดูแลโคที่ได้รับมอบเป็นอย่างดี จะไม่ฆ่า ไม่ขายเด็ดขาด แต่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตรอย่างสูงสุด
พลเรือเอกวีระพันธ์ สุขก้อน โฆษกคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีเป้าหมายจัดทำโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 26 สัปดาห์ๆละ 79 ตัว จากนั้นจะมอบโค-กระบือที่ได้รับการไถ่ชีวิตให้กรมปศุสัตว์ นำไปดำเนินการตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามแนวพระราชดำริ โดยคัดเลือกส่งมอบให้แก่เกษตรกรที่มีฐานะยากจน นำไปเลี้ยงและใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร ทำไร่ ทำนา ซึ่งเป็นการสนองแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาชนบทที่เน้นพึ่งพาตนเอง