อุบลฯ สั่งเด้ง! ปศุสัตว์อำเภอเรียกเก็บเงินเลี้ยงโค-กระบือโครงการพระราชดำริ

อุบลราชธานี - ปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานีสั่งเด้งปศุสัตว์อำเภอฉาว เรียกรับเงินเข้าร่วมโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ หลังชาวบ้านกว่า 50 รายตบเท้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ทั้งหลังตรวจสอบไม่พบมีการเสนอชื่อชาวบ้านเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย หากทำผิดจริงต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนทั้งทางแพ่ง อาญา และวินัย รู้ผลเร็วๆ นี้

จากกรณีชาวบ้านในอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมประจำอำเภอเขมราฐ มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอมาแจ้งว่า หากราษฎรคนใดต้องการโค กระบือ ในโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริไปเลี้ยง ต้องจ่ายค่าดำเนินการรายละ 2,000 บาท ซึ่งมีราษฎรในตำบลพังเคน และตำบลหัวนากว่า 50 คน ให้ความสนใจจ่ายเงินให้ไปตั้งแต่กลางปี 2558 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้โค-กระบือมาเลี้ยงนั้น

นายวีระ ร่มโพธิ์ภักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2522 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสต้องการให้มีการขยายพันธุ์โค-กระบือในประเทศที่มีปริมาณลดลงให้มีเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นอาหารและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนที่ยากไร้

โดยราษฎรที่จะเข้ามาขอรับโคหรือกระบือจากโครงการไปเลี้ยงต้องเป็นผู้ยากจนและผ่านการคัดเลือกจากประชาคมหมู่บ้าน ส่งมาที่อำเภอและส่งรายชื่อมาที่จังหวัด เพื่อเสนอชื่อต่อกองงานโครงการในพระราชดำริ ก็จะได้รับการจัดสรรโค-กระบือเพศเมียให้ไปเลี้ยงตามลำดับที่ขึ้นทะเบียนไว้รายละ 1 ตัว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

แต่เกษตรกรที่นำโคหรือกระบือไปเลี้ยงต้องส่งลูกตัวแรกที่มีอายุ 1 ปี 6 เดือนคืนโครงการเพื่อจัดสรรให้เกษตรกรรายอื่นต่อไป และเมื่อแม่โค กระบือมีอายุครบ 5 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงก็จะได้รับกรรมสิทธิ์สามารถนำไปจำหน่ายจ่ายแจกต่อไปได้เลย เหตุที่ต้องรอเวลา 5 ปีเพราะต้องการให้มีการแพร่ขยายพันธุ์ของโคและกระบือในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในอำเภอเขมราฐ จากการตรวจสอบมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการและได้รับโคและกระบือไปเลี้ยงแล้ว 120 ราย แต่ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่มีการยื่นรายชื่อเกษตรกรเข้ามาขอร่วมโครงการใหม่แม้แต่รายเดียว

เบื้องต้นได้สั่งให้ปศุสัตว์อำเภอเขมราฐเข้ามาช่วยราชการที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ถูกร้องเรียน หากมีมูลไปเรียกรับเงินจากเกษตรกรจริง ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เพราะถือเป็นความผิดร้ายแรง

ซึ่งได้เร่งรัดให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ เพราะกรมปศุสัตว์สั่งให้รีบดำเนินการ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการในพระราชดำริ ไม่ควรมีเรื่องเสียหายเกิดขึ้นในโครงการ

สำหรับเกษตรกรที่มาร้องเรียน หากยังประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถไปขอเอกสารขอเข้าร่วมโครงการกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ และผ่านกระบวนการพิจารณาเป็นเกษตรกรที่ยากไร้จริง ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีมีเกษตรกรผู้ยากไร้เข้าร่วมโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริกว่า 4,700 ราย อยู่ระหว่างรอรับโค-กระบือมาเลี้ยงจำนวน 83 ราย และอยู่ระหว่างขอยื่นรายชื่อใหม่อีกกว่า 230 ราย โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นกับโครงการมาก่อนด้วย