xs
xsm
sm
md
lg

สุดยอด! อาจารย์ มช.สร้างชื่ออีก คิดวิธีฟื้นผู้ป่วย “สูบบุหรี่ขี้โย” จนถุงลมโป่งพองสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - อาจารย์คณะแพทย์ มช.สร้างชื่ออีก คว้ารางวัลประทานชนะเลิศ “DMSc Award” เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ หลังวิจัย-พัฒนา “โปรแกรมฝึกอบรมออกกำลังกายสวนดอก” ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง ช่วยคนเหนือตอนบนที่นิยม “สูบบุหรี่ขี้โย” ได้ผล

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมวิชาการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 24 เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาวิจัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบบูรณาการในประเทศไทย” และคิดโปรแกรม “การฝึกอบรมการออกกำลังกายสวนดอก” ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง จนได้รับประทานรางวัลชนะเลิศ “DMSc Award” จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

รศ.นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์ หัวหน้าหน่วยวิชาโรคระบบการหายใจ เวชบำบัดวิกฤตและภูมิแพ้ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รางวัลที่ได้รับเป็นรางวัลประเภทงานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง “การศึกษาวิจัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบบูรณาการในประเทศไทย”

ซึ่งโรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมากกว่าภาคอื่น เนื่องจากพฤติกรรมของประชากรในภูมิภาคนี้มีการสูบบุหรี่กันเป็นจำนวนมากทั้งชาย และหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบ “บุหรี่ขี้โย” โดยเพศหญิงมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ใกล้เคียงกันกับเพศชาย (สำหรับภาคอื่นพบว่าสถิติการสูบบุหรี่ของเพศหญิงต่อเพศชายมีเพียง 1 ต่อ 10 เท่านั้น)

โดยผู้ป่วยที่พบส่วนมากมีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีอาการป่วยจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไปอาการจะปรากฏรุนแรงขึ้น คุณภาพชีวิตของคนเหล่านี้จะเสียไป และก่อให้เกิดภาระต่อลูกหลาน สังคม และเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข ซึ่งยืนยันได้จากสถิติของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่พบว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคระบบการหายใจที่เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายสูงที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

ด้วยเหตุนี้ทางคณะแพทยศาสตร์ มช.จึงเริ่มการศึกษาวิจัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบบูรณาการขึ้นมาเป็นแห่งแรกในประเทศ ซึ่งจากการศึกษาก็ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ทำให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหา วิธีการแก้ปัญหา และผลของการแก้ไขปัญหาได้อย่างชัดเจน

โดยคิดโปรแกรมการฝึกออกกำลังกาย ใช้ชื่อว่า “โครงการฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพื่อชีวิต” ชื่อ “การฝึกอบรมการออกกำลังกายสวนดอก (Suandok Exercise Training (SET)program)” เพื่อเป็นเกียรติแก่สถาบัน ใช้เวลาเพียง 2 เดือน 16 ครั้ง สำหรับผู้ป่วยขั้นรุนแรงและรุนแรงมาก ภายใต้การควบคุมดูแลโดยอายุรแพทย์ นักกายภาพบำบัด และพยาบาล

รศ.นพ.ชายชาญบอกว่า การฝึกอบรมตามโปรแกรมนี้มีประสิทธิภาพสูงมากในทุกๆ มิติที่พึงประเมิน ความแข็งแรงกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น สมรรถนะการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ระดับคุณภาพชีวิตดีขึ้น อาการหายใจลำบากลดลง ภาวะโรคกำเริบลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปีเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาเท่านั้น นับเป็นการศึกษาที่มีการติดตามอย่างเป็นระบบเป็นเวลานานที่สุดที่เคยมีการศึกษามา

แต่เครื่องมือราคาสูงเกินไปสำหรับโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงพัฒนาต่อยอดเป็นโปรแกรม Modified SET (MSET) คือใช้อุปกรณ์ที่มีราคาถูก หาซื้อง่าย และใช้วิธีการประเมินที่ไม่ซับซ้อน ทำได้ง่ายสำหรับพยาบาลทั่วไป ทำการทดสอบในโรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง ผลปรากฏว่ามีประสิทธิภาพดีเช่นเดียวกัน ผลการวิจัยการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดนี้เป็นการกระตุ้น และสร้างความตื่นตัวในการทำการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด และกำหนดนโยบายในวงการสาธารณสุขของประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ หลังงานวิจัยดังกล่าวจำนวน 13 เรื่อง ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ในช่วงปี 2557-2558 คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาจำนวน 15 ท่านได้พิจารณาว่า ผลงานวิจัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบบูรณาการดังกล่าวสมควรได้รับรางวัลชนะเลิศผลงานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ส่งเสริมงานด้านสาธารณสุข DMSc Award ประจำปี พ.ศ. 2559 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้รับพระราชทานรางวัล (DMSc Award) ประเภทการวิจัย และการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์จาก ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น