xs
xsm
sm
md
lg

น่าทึ่ง! วิสาหกิจชุมชนแม่สายต่อยอดปอสา-ไหมทองส่งออก ปั้นท่องเที่ยวชาติพันธุ์ต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - พบทุนท้องถิ่นชายแดนแม่สาย ผนึกชุมชนเครือข่าย พัฒนาผลิตภัณฑ์ปอสา-ใยกล้วย-กันชง-หญ้าแฝกสุดล้ำ แถมจับมือเกษตรกรเวียงเชียงรุ้งผลิตมาสก์หน้าไหมทองราคาแพงส่งออก ล่าสุดร่วมปลุกปั้นท่องเที่ยวกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ต่อ

วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา “กระดาษสา” ได้ชื่อเป็นผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของภาคเหนือหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง และสุโขทัย ถูกพัฒนาเป็นสินค้าทำเงินให้ท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบ ทั้งโคมไฟ ร่ม ฯลฯ ที่พบเห็นได้ดาษดื่น

แต่ “ผลิตภัณฑ์กระดาษสา วิสาหกิจชุมชนจินนาลักษณ์ มัลเบอรี่ สาเปเปอร์ ชายแดนแม่สาย จ.เชียงราย” ที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างทุนท้องถิ่น กับชุมชนเครือข่าย มีการพัฒนาต่อยอดทั้งลวดลาย สีสัน รูปแบบ ตลอดจนคุณสมบัติ ฯลฯ ได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังนำไปสู่การพัฒนากระดาษ วัสดุที่เกี่ยวข้อง ผลิตเป็นวอลเปเปอร์ หน้ากากมาสก์หน้าไหมทอง ฯลฯ ส่งออก

น.ส.ธนิสกานต์ พุทธรักษา ผู้บริหารร้านจินนาลักษณ์ เลขที่ 235 บ้านปางห้า หมู่ 1 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย บอกว่า วิสาหกิจชุมชนจินนาลักษณ์ฯ เริ่มมาจากนางจินนาลักษณ์ ชุ่มมงคล คนในท้องถิ่นที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้มีคุณค่าทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ก่อตั้งโรงงานผลิตกระดาษสาขึ้นมานานกว่า 21 ปีแล้ว

กระทั่งปัจจุบันได้พัฒนากิจการเป็น “วิสาหกิจชุมชนจินนาลักษณ์ มัลเบอรี่ สาเปเปอร์” ร่วมกับกลุ่มชาวบ้านหลายพื้นที่ใน จ.เชียงราย ผลิตเส้นใยและผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยนำเส้นใยจากปอสาที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และเป็นสิ่งที่คนรุ่นปู่ย่าตายายนำมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

น.ส.ธนิสกานต์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพัฒนาไปยังเส้นใยของพืชอื่นๆ เช่น ใยกล้วย ใยกันชง หญ้าแฝก ฯลฯ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งถุง-กล่อง จนถึงวอลเปเปอร์ ขณะเดียวกันได้ร่วมกับกลุ่มเลี้ยงไหม อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย พัฒนาให้ตัวไหมทำกระดาษเส้นใยไหมทองคำ ซึ่งสามารถนำมาทำหน้ากาก หรือมาสก์หน้า สำหรับดูแลผิวหน้าร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ด้วย

น.ส.ธนิสกานต์กล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผลิตได้ 70% มีการส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งเยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ เพราะหลายประเทศให้ความสนใจ เนื่องจากผลิตภัณฑ์กระดาษของไทยมีความงดงาม และมีการนำลวดลายจากพืชต่างๆ ลงไปตกแต่งได้

ขณะเดียวกันพบว่าเส้นใยไหมทองคำที่ได้พัฒนาต่อยอดร่วมกับชุมชนเครือข่ายก็กำลังได้รับความสนใจ ซึ่งหากจำหน่ายเป็นผืนขนาดกว้าง 55 ซม. ยาว 80 ซม.จะมีราคาผืนละประมาณ 1,500 บาท ถ้าเป็นมาสก์หน้าจะขายได้ในราคาอันละ 550 บาท หรือจำหน่ายพร้อมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในราคาชุดละ 1,890 บาท

น.ส.ธนิสกานต์กล่าวอีกว่า และล่าสุดขณะนี้ทางร้านฯ ยังเปิดเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในเครือข่ายประมาณ 10 ชุมชน จัดเป็นที่พักโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์กระดาษสา และอื่นๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นแล้วนำมาตกแต่งพื้นที่ รวมทั้งสามารถทดลองทำชิ้นงาน สัมผัสวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ได้อีกด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น