xs
xsm
sm
md
lg

ถูกตราหน้าเป็นปอบ! 2 แม่ลูกบุรีรัมย์โร่แจ้งจับญาติ-ชาวบ้านรุมทำร้ายเกลียดชังมากว่า 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สองแม่ลูกชาวบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดญาติและชาวบ้าน รุมกล่าวหาใส่ร้ายว่าแม่เป็นปอบ บีบบังคับไปหาหมอผีทำพิธีขับไล่ ทำเสื่อมเสียถูกเกลียดชังและทำร้ายบาดเจ็บหลายครั้ง ชีวิตไม่เป็นปกติสุขมากว่า 3 ปี  วันนี้ ( 19 มิ.ย.)
บุรีรัมย์  - 2 แม่ลูกชาวบุรีรัมย์สุดทน โร่แจ้งตำรวจเอาผิดญาติ และชาวบ้าน หลังถูกรุมกล่าวหาใส่ร้ายว่าแม่เป็นปอบ ทั้งบีบบังคับไปหาหมอผีทำพิธีขับไล่ จนทำให้เสื่อมเสีย ถูกเกลียดชัง และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่เป็นปกติสุขได้มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี

วันนี้ (19 มิ.ย.) นางผัน แสงสว่าง อายุ 56 ปี พร้อมด้วย น.ส.ณัฎฐณิดา แสงสว่าง อายุ 30 ปี บุตรสาว อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.3 บ้านสวัสดี ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดต่อญาติ และชาวบ้านในหมู่บ้าน หลังได้ถูกญาติ และชาวบ้านรุมกล่าวหาใส่ร้ายว่า นางผัน ผู้เป็นแม่เป็นผีปอบ

ทั้งได้บีบบังคับพาแม่ไปหาพระ หมอผียังจังหวัดต่างๆ เพื่อทำพิธีขับไล่ภูตผีหลายครั้ง จนทำให้ครอบครัวเกิดความอับอายเสื่อมเสีย ถูกชาวบ้านเกลียดชัง อีกทั้งยังได้ทำร้ายร่างกายแม่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้งด้วย จนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของตัวเองได้อย่างปกติสุขเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว

โดยสาเหตุที่ชาวบ้านกล่าวหาใส่ร้ายว่า นางผัน เป็นปอบ น่าจะมาจากกรณีที่มีคนข้างบ้านป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอีกคนเป็นโรคหอบหืด เมื่อทั้งสองมีอาการเจ็บป่วยกำเริบขึ้นมา ชาวบ้านจะกล่าวหาว่า นางผัน ซึ่งอาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะลูกสาว ลูกชายไปทำงานต่างจังหวัด เป็นปอบมากินตับ ไต ไส้พุงของคนที่ป่วย จากนั้นจะพากันมาจับตัว นางผัน บีบบังคับให้ไปหาหมอผีเพื่อทำพิธีขับไล่จนกว่าชาวบ้านจะพอใจ หรือเชื่อว่าผีปอบออกจากร่างของนางผัน แล้วจึงจะพานางผัน กลับมาบ้าน

ปัจจุบัน นางผัน ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความอับอาย ไม่กล้าไปพูดคุยกับใคร กระทั่ง นางณัฎฐณิดา บุตรสาว ซึ่งไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดเมื่อทราบว่า แม่ถูกรังแก ต้องลางานกลับมาดูแลแม่บ่อยครั้ง จนล่าสุดทนไม่ไหวจึงได้พาแม่ไปแจ้งความเพื่อเอาผิดต่อบุคคลที่กล่าวหา และทำร้ายร่างกายแม่ ทั้งยังได้พาแม่ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดด้วย

นางณัฎฐณิดา แสงสว่าง บุตรสาวกล่าวทั้งน้ำตาว่า ด้วยฐานะที่ยากจน ตนกับน้องชายจึงต้องเดินทางไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด จำเป็นต้องปล่อยให้แม่อยู่บ้านตามลำพัง หากมีวันหยุดจะเดินทางกลับมาเยี่ยมแม่ แต่ระยะหลังๆ เมื่อทราบว่า แม่ถูกชาวบ้านรุมกล่าวหาว่าเป็นปอบ และทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ด้วยความเป็นห่วง และสงสารแม่ จึงได้ลางานมาดูแลแม่ และพาแม่เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อผู้ที่กล่าวหา และทำร้ายร่างกายแม่ ทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจตราที่บ้านด้วยเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

นางณัฎฐณิดา ยังกล่าวอีกว่า การที่บางครั้งแม่จะเหม่อลอย หรือพูดคนเดียว เพราะแพทย์ระบุว่า แม่เป็นโรคไบโพลา หรือมีอารมณ์ 2 ขั้วในคนคนเดียว ยืนยันว่า แม่ไม่ได้เป็นปอบ หรือภูตผีตามที่ถูกกล่าวหา และอยากร้องขอให้ญาติ และชาวบ้านได้หยุดกล่าวหาใส่ร้ายแม่ของตนเองด้วย เพราะที่ผ่านมา แม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความอับอาย และไม่เป็นสุขมานานกว่า 3 ปีแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ ร้อมได้สอบปากคำทั้งสองฝ่าย จากนั้นจะได้หาข้อมูลหลักฐาน หากพบว่าชาวบ้านได้กล่าวหาใส่ร้าย และทำร้ายร่างกายจริงตามที่ผู้เสียหายแจ้งความจะดำเนินการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น