กาญจนบุรี - ทบ.มอบที่ดินกว่า 8,000 ไร่ ให้จังหวัดกาญจนบุรีนำไปพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี สู่เมืองทวาย พม่า แนะประชาชนชาวกาญจน์เตรียมรับความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ต้องปรับตัวให้ทัน และช่วงชิงความได้เปรียบไว้ก่อน
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตำบลบ้านเก่า บริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งด่านผ่านแดนถาวรออกไปเมืองทวาย ประเทศพม่า ทางกองทัพบก ยินยอมมอบพื้นที่ที่เคยดูแลในด้านความมั่นคงให้ทางจังหวัดกาญจนบุรี นำมาพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน ประมาณ 8,000 ไร่เศษเรียบร้อยแล้ว โดยมีการลงนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา และขณะนี้กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กำลังออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
ซึ่งในแบบผังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน แบ่งเป็น 4 โซน คือ 1.พื้นที่ศุลกากร จำนวน 1,000 กว่าไร่ 2.พื้นที่จัดสร้างศูนย์ราชการ จำนวน 3,000 ไร่ 3.พื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 3,000 ไร่ และโซนที่ 4.พื้นที่ชุมชนประกอบธุรกิจ จำนวน 1,400 ไร่ สำหรับพื้นที่สร้างศูนย์ราชการคาดว่าต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนกว่า 3 พันล้านบาท
ในขณะเดียวกัน โครงการถนนมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-บางใหญ่ (นนทบุรี) มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน และจะเปิดการประมูลหาบริษัทมาก่อสร้างในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์กาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน ได้กำหนดก่อสร้างในเส้นทางเลือก สายที่ 4 อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นระยะทางที่สั้นกว่าเส้นทางเลือกสายที่ 1 และการลงทุนค่าก่อสร้างต่างๆ นั้นน้อยกว่า
รวมทั้งในอนาคตผู้ใช้เส้นทางก็ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง (น้ำมัน) ด้วย ส่วนที่มีการคัดค้านไม่เห็นด้วยต่อการใช้เส้นทางเลือกสายที่ 4 นั้นก็ต้องมาคุยกันเพื่อต่อรองให้มีการวางระบบเส้นทางที่ไม่สร้างผลกระทบต่อชาวบ้าน และต้องปรับรูปแบบถนนให้ไม่สร้างผลกระทบ และยังเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านด้วย
นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี ยังได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุ รีอีกว่า คนในจังหวัดกาญจนบุ รีจะต้องมีการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต จะต้องปรับตัวให้ทัน และช่วงชิงความได้เปรียบไว้ก่อน ไม่ควรให้คนที่มาจากที่อื่นชิงเอาไป ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาจังหวัดขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อเป็นมันสมองในการวางระบบการศึกษา โดยให้สถานศึกษาต่างๆ ทุกระดับเน้นการเรียนการสอนให้เข้มข้นมากขึ้น
นอกจากนี้ จะได้ริเริ่มจัดโครงการ “ผู้ว่าฯ พบสื่อเมืองกาญจน์” ขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้สื่อมวลชนในพื้นที่ได้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ และชี้แจงความก้าวหน้าในภารกิจสำคัญต่างๆ ของจังหวัดให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
