บุรีรัมย์ - เกษตรกร 4 หมู่บ้าน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนานกว่า 1 เดือน ทำให้ต้นข้าวที่ไถหว่านไว้เริ่มขาดน้ำหล่อเลี้ยงเหี่ยวเฉาแห้งตายแล้วกว่า 200 ไร่ จากพื้นที่นาทั้ง 4 หมู่บ้าน กว่า 2,000 ไร่
แม้ช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่หลายพื้นที่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง โดยเฉพาะเกษตรกรใน 4 หมู่บ้าน มี บ.หนองใหญ่ ม.1 บ.หนองไผ่ ม.3 บ.ใหม่พัฒนา ม.16 และ บ.นาเกียรตินิยม ม.17 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ประสบภาวะฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ประกอบกับสระสาธารณะ “หนองหิน” เนื้อที่กว่า 40 ไร่ และแหล่งน้ำลำคลองธรรมชาติก็มีสภาพเหือดแห้ง
ทำให้นาข้าวที่ไถหว่านไว้มีสภาพพื้นดินแตกระแหง ต้นข้าวเริ่มขาดน้ำหล่อเลี้ยงเหี่ยวเฉาแห้งตายแล้วกว่า 200 ไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้ง 4 หมู่บ้าน กว่า 2,000 ไร่ และคาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาหล่อเลี้ยงภายใน 1-2 สัปดาห์ ต้นข้าวที่ไถหว่านไว้จะทยอยเหี่ยวเฉาแห้งตายเป็นวงกว้างมากขึ้น
ขณะที่เกษตรกรบางรายที่ไถหว่านข้าวไว้ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. แล้วประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงต้นข้าวแห้งตาย ก็ได้ลงทุนหว่านข้าวเป็นรอบที่ 2 แล้ว ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
จากกรณีดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจนาข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงแห้งตายเสียหาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ พร้อมทั้งอยากให้มีการทำฝนหลวงเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวไม่ให้แห้งตายเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย
นายเหรียญ รินทร์ทอง อายุ 60 ปี เกษตรกรบ้านใหม่พัฒนา ม.16 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เกษตรกรในหมู่บ้านได้ประสบปัญหาภัยแล้งมาต่อเนื่องมา 3-4 ปีแล้ว ทำให้ไม่ได้ผลผลิตเต็มที่ บางรายต้องประสบปัญหาขาดทุน ทั้งยังประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำซ้ำเติมอีกด้วย จนบางรายไม่มีเงินไปชำระหนี้ ธ.ก.ส. ปัญหาดังกล่าวจึงได้ร้องขอให้มีการทำฝนหลวงช่วยเหลือชาวนาด้วย
ด้าน นายสวัสดิ์ คำผาย อายุ 69 ปี เกษตรกรบ้านใหม่พัฒนา ม.16 กล่าวว่า ได้ไถหว่านข้าว เนื้อที่ 10 ไร่ เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงก็ทำให้ต้นข้าวที่ไถหว่านไว้ขาดน้ำ แห้งตาย ต้องลงทุนหว่านใหม่แล้ว 5 ไร่
ส่วนที่เหลือก็เริ่มเหี่ยวเฉา และคาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาหล่อเลี้ยงอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ข้าวที่หว่านไว้ก็จะแห้งตายเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีก จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือ