บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องขอฝนหลวงเติมน้ำสระกลางหมู่บ้านที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงกว่า 300 ครัวเรือน ที่มีสภาพตื้นเขินใกล้แห้งขอด และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรกระทบแล้งเหี่ยวเฉา ล่าสุดมีนาข้าว มันสำปะหลังขาดน้ำแห้งตายเสียหายแล้วกว่า 2 พันไร่
วันนี้ (12 พ.ค.) ตัวแทนชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านม่วงเหนือ หมู่ 5,บ้านม่วงใต้ หมู่ 8 และบ้านชุมทอง หมู่ 13 ตำบลพระครู อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ให้เร่งหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้ง หรือขอให้ประสานกับทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา หรือ จ.ขอนแก่น ให้ออกปฏิบัติบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงในพื้นที่ เพื่อเติมปริมาณน้ำในสระกลางหมู่บ้านที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชน วัด โรงเรียนทั้ง 3 หมู่บ้านกว่า 300 ครัวเรือน ที่ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินใกล้แห้งขอด
รวมถึงช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ที่กำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้พื้นที่การเกษตร เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ขาดน้ำเหี่ยวเฉาไม่เจริญเติบโต ทั้งผลผลิตแห้งตายเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดกว่า 3,500 ไร่ นอกจากนี้เกษตรกรยังไม่สามารถหว่านข้าวได้ เพราะเกรงจะได้รับความเสียหายหากไม่มีฝนตกลงมาหล่อเลี้ยง
นายบรรพต สุขัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านม่วงเหนือ ม.5 กล่าวว่า จากภาวะภัยแล้งที่ค่อนข้างรุนแรงในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบทำให้สระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้ผลิตประปาทั้ง 3 หมู่บ้านมีสภาพตื้นเขินใกล้แห้งขอด เกรงจะไม่เพียงพอผลิตประปาได้ตลอดหน้าแล้ง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรทั้งพืชสวน พืชไร่ ขาดน้ำเหี่ยวเฉาแห้งตายเสียหายด้วย
จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ หรือประสานทำฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในสระให้มีน้ำผลิตประปา และจะได้มีน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรไม่ให้แห้งตายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้น
ประกอบกับเกษตรกรจะได้มีน้ำเพาะปลูกข้าวด้วย เพราะขณะนี้ก็ถึงฤดูกาลทำนาปีแล้ว แต่เกษตรกรในพื้นที่ยังไม่สามารถหว่านข้าวได้