อุดรธานี/นครพนม - พ่อเมืองแถลงจับเครือข่ายค้ายาบ้าใน อ.กุดจับ ยึดของกลาง 3,650 เม็ด สารภาพต้องการเงินไปเลี้ยงลูกเมีย ขณะที่ จ.นครพนม นอภ.ท่าอุเทน พร้อมเจ้าหน้าบุกรวบหนุ่มวัย 25 เปิดอู่ซ่อมรถบังหน้าแต่ขายยาบ้าจนร่ำรวย ยึดทรัพย์ร่วมล้าน บ. พร้อมจับกุมป้าผู้ต้องหาเสนอติดสินบน 2.5 แสนบาท แลกปล่อยตัวหลาน
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอกุดจับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุดจับ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสุรจิตร หาสุนโม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 1 บ.ตาลเลี่ยน ต.ตาลเลี่ยน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า 3,650 เม็ด และเงินล่อซื้อ 13,500 บาท ในข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
นายชยาวุธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางฝ่ายปกครองอำเภอกุดจับ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนว่า นายรุ่ง หรือสุรจิตร มีพฤติกรรมลักลอบขายยาบ้าให้แก่ชาวบ้าน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ประสานตำรวจ สภ.กุดจับ ทำการสืบสวนตามคำร้องเรียนของประชาชน จากการสืบสวนทราบว่า นายสุรจิตร มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าจริง
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการส่งสายข่าวเข้าไปทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวนหนึ่ง โดยนัดส่งมอบกันที่ไร่มันสำปะหลัง บ.ตาลเลี่ยน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
ต่อมา นายสุรจิตร ได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 2517 อุดรธานี มาในบริเวณไร่มันสำปะหลังซึ่งเป็นจุดนัดหมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเข้าขอตรวจค้น จากการตรวจค้นถุงสะพายย่ามสีขาวพบว่า มียาบ้า 3,650 เม็ด จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด และควบคุมตัวมาทำการสอบสวนต่อที่ทำการปกครองอำเภอกุดจับ
จากการสอบสวน นายสุรจิตร ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดตนรับมาจากเพื่อนลูกชายอีกทอดหนึ่ง โดยจะแบ่งขายในราคาเม็ดละ 150 บาท โดยตนจะได้เปอร์เซ็นต์เม็ดละ 50 บาท ซึ่งตนเพิ่งเริ่มทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากต้องการเงินไปเลี้ยงดูลูก และเมีย
นายชยาวุธ กล่าวอีกว่า การที่มีการจับกุมยาบ้าบ่อยครั้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้รับความร่วมมือจากประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส ขอฝากไปยังประชาชนทุกคนที่ได้ทราบข่าว หรือหากมีเบาะแสเกี่ยวกับผู้ค้า ผู้เสพยาเสพติด สามารถแจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมที่สายด่วน 1567
เปิดอู่รถบังหน้าแต่ขายยาบ้า ยึดทรัพย์เพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ว่าที่ ร.ต.อุทัย ทาบทอง นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า จากการสืบหาข่าว พบว่า นายวีระยุทธ โพธิ์ชัย วัย 25 ปี มีพฤติกรรมค้ายาบ้า มีชื่อในบัญชีผู้ค้ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยต้องการตัว จึงสั่งการให้ นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอำเภอท่าอุเทน ประสานกับ ร.ต.ถาวร ชะสิงห์ หัวหน้าหมวดปืนเล็กที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 2108 ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.ภาค 4 ร่วมวางแผนนำเงินเข้าล่อซื้อ
กระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ได้ส่งสายนำเงิน จำนวน 12,000 บาท ล่อซื้อยาบ้าจาก นายวีระชัย ในราคาเม็ดละ 100 บาท จำนวน 120 เม็ด ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ต.รามราช หมู่ 2 อ.ท่าอุเทน ซึ่งนายวีระชัย เปิดอู่ซ่อมรถชื่ออู่โพธิ์ชัย บังหน้า หลังนัด แนะส่งมอบยาบ้า เจ้าหน้าที่ที่กระจายกำลังดักซุ่มจึงเข้าล้อมจับ นายวีระชัย ได้ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน
เบื้องต้น นายวีระชัย ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากฝั่งลาว โดยจะมีเครือข่ายนำมาส่งมอบให้ที่บ้านเมื่อมีผู้สั่ง โดยทำมานานตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น จึงคุมตัวไว้ขยายผล ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้อายัดทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ 1 เส้น หนัก 3 บาท สร้อยคอมือ 1 เส้น หนัก 2 บาท รถยนต์มิตซูบิซิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน กง 4599 นครพนม รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 6117 นครพนม พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำแดง ทะเบียน กมค 397 นครพนม และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบว่า ได้มาจากการค้ายาเสพติดด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอยู่นั้น ได้มี น.ส.พรรณวิภา จำเริญเศษ อายุ 29 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า อาชีพกรีดยางใน อ.บ้านแพง เสนอติดสินบนเจ้าหน้าที่ 250,000 บาท แลกต่อการปล่อยตัว นายวีระชัย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงาน คุมตัวส่งดำเนินคดีต่อไป
สำหรับ นายวีระชัย ผู้ต้องหารายนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูพฤติกรรม และติดตามตัวมานานกว่า 6 ปี มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ โดยเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์บังหน้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ กระทั่งถูกล่อซื้อล้อมจับได้คาบ้านพักดังกล่าว