กาญจนบุรี - ตร.สืบสังขละบุรี รวบสาวพม่าขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติรายใหญ่ เครือข่ายชาวมาเลเซีย ของกลาง 80,000 เม็ด มูลค่า 16 ล้านบาท ก่อนขยายผลถึงหาดใหญ่ ตะครุบหนุ่มพม่าได้อีก 1 ราย เผยผู้ต้องหาติดสินบน จนท.ชุดจับกุม 3 แสน หากยอมปล่อยตัว ก่อนซ้อนแผนอายัดเงินสดเพิ่ม เจอคดีติดสินบนอีก 1 ข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 มี.ค.59 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ขวัญชัย ธีระกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ขนยาเสพติดประเภทยาบ้ามาจากกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศสหภาพพม่า ที่มีแนวเขตชายแดนติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยผู้ขนยาเสพติดเป็นหญิงชาวพม่า อายุระหว่าง 40-45 ปี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.จุมพล เลขสุนทรากร รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.สภ.สังขละบุรี ร.ต.อ.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน รอง สว.สส.สภ.สังขละบุรี ร.ต.ท.ภาวัต ธรรมวิเศษ รอง สว.สส.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังไปซุ่มโป่งบริเวณเส้นทางเข้าออกตามแนวชายแดน
จนกระทั่งเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่พบหญิงสาวชาวพม่า ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา โดยสะพาย และถือกระเป๋าแบบหูหิ้วขนาดใหญ่มาด้วย จำนวน 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ผลจากการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ จำนวน 6 มัด และกระเป๋าใบเล็ก 2 มัด โดยใช้เสื้อผ้า และชุดชั้นในวางทับเอาไว้ นับยาบ้ารวมกันได้ จำนวน 80000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวหญิงสาวชาวพม่าคนดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อขยายผลที่ สภ.สังขละบุรี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถพูดไทยได้ จึงต้องสอบปากคำผ่านล่าม จึงทราบว่า ผู้ต้องหาชื่อ นางตีตีวีน ไม่มีนามสกุล ชาวพม่า อายุ 42 ปี และกำลังนำยาบ้าจำนวนดังกล่าวไปส่งให้แก่กลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เป็นชาวพม่าด้วยกัน ที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา
เจ้าหน้าจึงวางแผนเพื่อขยายผลด้วยการนำของกลางพร้อมกับผู้ต้องหาเดินทางไปที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ที่อยู่ในพื้นที่ และมีการนัดหมายส่งยาบ้ากันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในเวลาประมาณ 11.30 น.ของวันที่ 8 มี.ค. เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่พบชายชาวพม่า ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สีฟ้า ทะเบียน 1 กฉ 7513 สงขลา เข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน เมื่อสอบถามนางตีตีวีน ตอบว่าใช่คนที่จะมารับยาบ้าจริง
จึงวางแผนให้นางตีตีวิน นำกระเป๋าบรรจุยาบ้าไปยืนรอข้างรถยนต์ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปะปนอยู่กับประชาชน จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงเดินมารับกระเป๋าบรรจุยาบ้าจากนางตีตีวิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ทราบชื่อคือ นายอ่าวทูอ่อง ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี โดยระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ นปส.สงขลา ระหว่างทาง นายอ่าวทูอ่อง ได้เสนอเงินให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นเงิน จำนวน 300,000 บาท เพื่อแลกต่อการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยไม่ให้ผู้ต้องหารับรู้ จากนั้นจึงใช้ไหวพริบที่มีอยู่แกล้งยอม โดยจะมีเครือข่ายค้ายาบ้านำเงินเข้าบัญชีธนาคารให้
ไม่นานนัก นายอ่าวทู อ่อง บอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า ลูกน้องได้นำบัตรเอาทีเอ็มมาวางไว้ที่ริมถนนกาญจนวานิช จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นจริง เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขออายัดเงินในบัญชี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากธนาคารได้ปิดทำการแล้ว นำตัวผู้ต้องหาไปกดเงินมาได้ 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงรอจนกระทั่งธนาคารเปิดทำการในวันที่ 9 มี.ค.จึงประสานขออายัดเงินสดทีเหลืออยู่ในธนาคารเอาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง เงินสดที่ผู้ต้องหามีอยู่ จำนวน 25,000 บาท รวมเงินสด จำนวน 125,000 บาท ส่วนเงินที่มีอยู่ในธนาคาร จำนวน 220,092 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางทั้งหมดมามาดำเนินคดีที่ สภ.สังขละบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบช.ภ.7 นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ขวัญชัย ธีระกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.จุมพล เลขสุนทรากร รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.สภ.สังขละบุรี ร.ต.อ.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน รอง สว.สส.สภ.สังขละบุรี ร.ต.ท.ภาวัต ธรรมวิเศษ รอง สว.สส.สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรวีห์ ตร.กก.3 บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ ตชด.13 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี นำตัว นางตีตีวีน และนายอ่าวทูอ่อง พร้อมด้วยยาบ้า 80,000 เม็ด มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
โดย พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบช.ภ.7 แถลงว่า สำหรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 16 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองกำลังนำยาบ้าจำนวนดังกล่าวไปส่งให้กลุ่มนายทุนที่ประเทศมาเลเซีย สำหรับต้นทางของยาบ้ามาจากประเทศพม่า ซึ่งจังหวัดกหาญจนบุรี และประเทศไทยใช้เป็นเพียงเส้นทางสำหรับลำเลียงยาบ้าผ่านเท่านั้น และหากผู้ต้องหาสามารถนำยาบ้า จำนวน 80,000 เม็ด ผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว สำหรับนางตีตีวีน ยอมรับสารภาพว่า ก่อนถูกจับกุมเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 500,000 จ๊าด คิดเป็นเงินไทยประมาณ 14,000 บาท ส่วนนายอ่าวทูอ่อง ได้ค่าจ้างเป็นเงินริงกิต จำนวน 3,000 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25,000 บาท สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติโดยแท้จริง และนับว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายดังกล่าวได้เป็นครั้งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี