xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งขนไม้พะยูง-ประดู่ 1.6 ล้านบาท เสนอสินบน 2 แสน ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รอง ผบ.ตร.แถลงจับแก๊งลักลอบขนไม้พะยูง-ไม้ประดู่ย่านฝั่งธนฯ มูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านบาท แถมยื่น 2 แสนบาทติดสินบนเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นคาดเป็นขบวนการขนส่งไม้แปรรูปไปต่างประเทศ เร่งขยายผลติดตามหานายทุนต่อ

วานนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปทส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 ร่วมกันแถลงผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม และ สน.แสมดำ จับกุมตัว นายวิญญู ดวงพิลา อายุ 25 ปี ชาว จ.พิจิตร และ น.ส.สุพรรณี เจ๊กทอง อายุ 30 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางไม้พะยูง 59 ท่อน ปริมาตร 2.826 ลบ.ม. มูลค่า 1,412,000 บาท ไม้ประดู่ 11 แผ่น ปริมาตร 1.881 ลบ.ม.มูลค่า 275,000 บาท เลื่อยยนต์ 2 ตัว และรถแบ็กโฮ 1 คัน โดยจับกุมตัวได้พร้อมของกลางทั้งหมดที่อู่ซ่อมรถรุ่งเรืองโช้คอัพ ถนนเลียบทางด่วนสุขสวัสดิ์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า คดีนี้ต้องขอชมเชยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม คือ พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม และ พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม ที่นำกำลังชุดจู่โจมประสานกับ พ.ต.อ.สำเริง ผลรอด ผกก.สน.แสมดำ ทำการเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทั้งนี้ เมื่อตำรวจทำการเข้าตรวจสอบจนพบการกระทำความผิดแล้ว ผู้ต้องหายังพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยเงินสด 200,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับ แถมทำการซ้อนแผนจับเพิ่มเติมข้อหาได้อีกเป็นเรื่องที่ต้องชมเชย สำหรับคดีนี้แนวทางการสืบสวนทราบตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังแล้ว และจะทำการขยายผลไปสู่การจับกุมบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน เพื่อยึดทรัพย์สินทั้งหมดต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.ทศพลเปิดเผยว่า การจับกุมคดีนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ชุดจู่โจม สน.ท่าข้าม ตระเวนออกตรวจตรามาตามถนนเลียบทางด่วนสุขสวัสดิ์ตามปกติ พบรถบรรทุกหกล้อขนไม้ต้องสงสัยเข้ามาจอดในอู่ซ่อมรถแห่งนี้จำนวนมากจึงรายงานผู้บังคับบัญชาขอตั้งชุดเฉพาะกิจออกมาทำการสืบสวน จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 27 เม.ย.ตัดสินใจนำกำลังเข้ามาขอตรวจสอบในพื้นที่อู่ซ่อมรถ ปรากฏพบรถแบ็กโฮ กำลังขุดไม้ขึ้นจากบ่อน้ำด้านหลัง โดยมีนายวิญญู ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นคนดูแลพื้นที่กำลังชี้จุดให้คนขับรถแบ็กโฮขุดไม้ขึ้นจากบ่อน้ำ จึงควบคุมตัวนายวิญญเอาไว้ ส่วนคนขับรถแบ็กโฮทราบชื่อคือ นายสมสกุล แช่มช้อย อายุ 34 ปี ไหวตัวทันวิ่งหนีไปได้หวุดหวิดซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.ท.ทศพลเปิดเผยต่อไปว่า ในขณะเจ้าหน้าที่กำลังทำบันทึกตรวจยึดของกลางอยู่นั้น ปรากฏว่า น.ส.สุพรรณี ผู้ต้องหาที่ 2 ได้โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือของนายวิญญูแล้วขอคุยกับตนเพื่อขอไม่ให้ดำเนินคดีตรวจยึดไม้ทั้งหมด ด้วยการติดสินบนจำนวน 200,000 บาท จึงซ้อนแผนขอให้ น.ส.สุพรรณีมาพบที่อู่เพื่อจับกุม เมื่อ น.ส.สุพรรณีเดินทางมาถึงจึงรวบตัวไว้ได้

ขณะที่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์เปิดเผยว่า จากรายงานการสืบสวนทราบว่าที่อู่ซ่อมรถยนต์แห่งนี้มีนายพิเชฐ ชมประเสริฐ อายุ 37 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.สุพรรณี ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ทำเรื่องขอเช่าเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาสอบปากคำดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากตอนนี้ น.ส.สุพรรณีไม่ยอมให้การใดๆ ส่วนผลการสอบสวนนายวิญญู ผู้ต้องหาที่ 1 เบื้องต้นยอมรับว่าพักอาศัยในอู่มา 4-5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท โดยตลอดเวลาจะมีรถบรรทุกไม้มาทิ้งใว้ในบ่อน้ำหลังอู่ เมื่อนายทุนต้องการใช้ก็จะให้นายวิญญูเป็นผู้ชี้จุดให้คนขับรถแบ็กโฮขุดขึ้นมาแปรรูป และจะมีรถบรรทุกมารับออกไปอีกครั้ง คาดว่าคงเป็นขบวนการส่งออกไม้แปรรูปไปยังต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะประสาน บก.ปทส.ทำการขยายผลไปถึงนายทุนให้ได้ต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีไม้แปรรูปหวงห้าม (ไม้พะยูง) เกินยี่สิบต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร หรือไม้ที่ได้แปรรูปแล้วรวมปริมาตรไม้เกิน 2 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ต่อนายวิญญู และ น.ส.สุพรรณี โดยในส่วนของ น.ส.สุพรรณีนั้นได้แจ้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน เพิ่มอีกกระทงด้วย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น