ตราด - กรมอุทยานฯ ร่วมเจ้าของ รร.สยามบีช เกาะช้าง ทำบันทึกข้อตกลงคืนที่ดิน 30 ไร่ ให้แก่กรมอุทยานฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศรื้ออาคารที่เหลือหลังจบคดี ด้าน ผกก.เกาะช้าง เร่งขอเอกสารดำเนินคดีต่อเจ้าของ
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ทำหน้าที่หัวหน้าชุดพญาเสือ ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า ชุดปฏิบัติการพญาเสือ นายวีระ ขุนไชยรักษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง นายอุดมพร ศิริรักษ์ นายช่างสำรวจชำนาญงานส่วนรังวัดแนวเขตที่ดิน พ.ต.อ.อาวัฒน์ พิบูลย์สวัสดิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เกาะช้าง ลงพื้นที่โรงแรมสยามบีช เกาะช้าง ต.เกาะช้าง จ.ตราด เพื่อร่วมลงนามในบันทึกการตรวจและทำข้อตกลงกับ นายบุญช่วย กุลศรีวรชัย เจ้าของโรงแรมสยามบีช เกาะช้าง อายุ 58 ปี
หลังจากเมื่อวานนี้ ทางชุดพญาเสือ ได้เข้าทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ที่มีเนื้อที่ 58 ไร่ 38 ตารางวา และมีการใช้ประโยชน์ไปเพื่อก่อสร้างโรงแรม 27 ไร่ 3 งาน 58 ตารางวา มีส่วนที่เป็นป่าดิบชื้น 30 ไร่ 49 ตารางวา ซึ่งเป็นที่สูงชัน ทั้งนี้ พบว่าพื้นที่ 30 ไร่ 49 ตารางวา อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหาข้อยุติกันแล้ว สรุปว่า นายบุญช่วย กุลศรีวรชัย พร้อมที่จะคืนที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อใช้เป็นพื้นที่ต้นน้ำ และรักษาความเป็นธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพต่อไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวหลังการรับมอบเอกสารว่า ต้องขอบคุณเจ้าของโรงแรมที่ได้มอบที่ดินในแปลงนี้เพื่อให้ทางกรมอุทยานฯ มาใช้ประโยชน์ในเรื่องการเป็นพื้นที่ต้นน้ำ และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ทางกรมอุทยานฯ จะได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่เป็นโยชน์ต่อสาธารณะ
ด้าน นายบุญช่วย กล่าวว่า ทางตนเองพร้อมที่จะคืนที่ดินแปลงนี้ให้แก่กรมอุทยานฯ เพื่อไปใช้ประโยชน์ต่อทางราชการ ซึ่งหลังจากได้หารือกับญาติพี่น้องแล้วทุกคนเห็นด้วย
ส่วนของเรื่องอาคารที่ทรุดตัวลงมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.59 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย ที่ผ่านมา ทางโรงแรมได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นเงินส่วนตัวหมดไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท ทั้งในเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งในโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน รวมทั้งค่าทำศพ และค่าทำขวัญ
บริษัท (โรงแรม) ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง แต่เรื่องดำเนินการช้ามาก จนป่านนี้ทางบริษัทส่งเพียงเจ้าหน้าเพียงคนเดียวเพื่อมาเก็บข้อมูลเท่านั้น ในเรื่องความช่วยเหลือยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่เรื่องนี้รอทางประกันไม่ได้ จึงต้องใช้เงินส่วนตัวช่วยเหลือไปก่อน
นายบุญช่วย กล่าวต่อว่า สำหรับอาคารโรงแรมที่เหลืออีก 5 หลังนั้น โรงแรมจะทำการรื้อทิ้งทั้งหมด รอให้การสอบสวนต่างๆ แล้วเสร็จจะได้ทำการรื้ออาคารทั้งหมด ส่วนพื้นที่แห่งนี้จะมีการทำประโยชน์ต่อไป และหากมีการก่อสร้างจะได้หารือกับสภาวิชาชีพวิศวกรรมทั้ง 2 แห่ง ช่วยเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้การก่อสร้างอาคารมีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวที่มาพักต่อไป
พ.ต.อ.อาวัฒน์ กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ได้มีการสอบพยานทั้งบุคคล และเอกสารการก่อสร้าง และรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบสำนวน นอกจากนี้ ยังจะประสานไปยังสภาวิชาชีพวิศวกรรมทั้ง 2 แห่ง ที่เดินทางมาตรวจสอบอาคารโรงแรมที่ทรุดตัว เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานสำคัญเพื่อพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไรต่อไป
หลังจากนั้น คณะของ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้เดินทางไปยังบ้านบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เพื่อทำการรื้อถอนร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีการปลูกสร้างรุกล้ำเขตอุทยานฯ เกาะช้าง หลังจบคดีแล้ว ซึ่งในบ้านบางเบ้า ยังมีร้านอาหาร และสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งปลูกสร้างอย่างผิดกฎหมาย และต้องรื้อถอนออกไป รวมทั้งโรงแรมซีฮัท รีสอร์ท ของเอกชนรายใหญ่อีกรายหนึ่งที่ถูกศาลดำเนินคดีแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งวันนี้จะเดินทางมาติดตามในโรงแรมแห่งนี้ด้วย
