กรมชลฯ แจงสถานการณ์น้ำเมืองท่องเที่ยวไร้ปัญหา

ศูนย์ข่าวศรีราชา- กรมชลประทาน จับคู่ประปาพัทยา แจงสถานการณ์น้ำกลางที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชี้อ่างเก็บน้ำ 5 อ่างหลักที่ส่งน้ำมายังเมืองพัทยา ปริมาณน้ำยังพอเพียงถึงตุลาคมนี้

สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้จัดการประชุมประจำเดือนมิถุนายน 2559 ขึ้นที่โรงแรมแกรนด์โซเล่ พัทยา จ.ชลบุรี โดยมีวาระที่น่าสนใจเป็นเรื่องของสถานการณ์น้ำประปาในพื้นที่เมืองพัทยาในปัจจุบัน โดย นายภูษิต พรหมเมศวร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานโครงการจังหวัดชลบุรี สำนักชลประทานที่ 9 ชี้แจงว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำในภาพรวมของจังหวัดชลบุรี เหลืออยู่ที่ 54 ล้าน ลบ.ม. หรือ 18.84% จากปริมาตรเต็มความจุ

โดยมีอ่างเก็บน้ำหลักที่นำน้ำมาใช้ 2 แหล่ง คือ อ่างเก็บน้ำบางพระ และอ่างเก็บน้ำหนองค้อ โดยในส่วนของอ่างบางพระนั้น จะมีปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยวันละประมาณ 2 แสนลูกบาศก์เมตร ซึ่งจัดสรรไปให้การประปาชลบุรี การไฟฟ้าบางปะกง และ บ.ไทยออยล์

ส่วนอ่างหนองค้อ จะใช้น้ำประมาณวันละประมาณ 1.1 หมื่นลูกบาศก์เมตร โดยแบ่งใช้ให้อีสท์ วอเตอร์ การประปาศรีราชา ศรีราชาฟาร์ม และ อบต.หนองขาม ปัจจุบัน ในส่วนของอ่างบางพระนั้นถือว่ามีความลำบาก เนื่องจากปริมาณน้ำมีจำนวนน้อยลงอย่างมาก ซึ่งจากประมาณการคาดว่าจะสามารถใช้ไปได้จนถึงเดือนตุลาคม 2559 นี้

ขณะที่ นายสุทัศน์ นุชปาน ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคชั้นพิเศษ สาขาพัทยา กล่าวว่า ในส่วนของเมืองพัทยา จะใช้น้ำจาก 5 อ่างเก็บน้ำหลัก ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ่างเก็บน้ำชากนอก อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง อ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต และอ่างเก็บน้ำห้วยสะพาน ซึ่งปัจจุบันมีน้ำดิบเหลืออยู่รวม 14.4 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถือว่ามีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา และจะสามารถใช้ได้จนถึงเดือนตุลาคมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่เมืองพัทยา จะใช้น้ำรวมอยู่ที่ปีละ 70 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่อ่างเก็บน้ำทั้ง 5 อ่าง มีน้ำรวมเต็มความจุ 40 ลบ.ม. หรือประมาณ 30% ของการใช้ทั้งหมดเท่านั้น จึงต้องมีแหล่งน้ำอื่นๆ มาเสริม ได้แก่ น้ำจากห้วยพันเสด็จ อีสท์วอเตอร์ น้ำจากระบบรีไซเคิล และการประปาสัตหีบ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ

ปัจจุบัน การประปาพัทยา ได้ลงนาม MOU ร่วมกับกรมชลประทาน ในการต่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำปะแสร์ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ซึ่งได้โควตาปีละ 40 ล้าน ลบ.ม.เพื่อนำมากักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ก่อนสูบส่งน้ำดิบมาเข้าสู่กระบวนการผลิตที่สถานีหนองกลางดง เพื่อรองรับการใช้น้ำในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งได้ดำเนินการเปิดระบบอย่างเป็นทางการไปแล้ว

โดยจากนี้จะทำให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เมืองพัทยาหมดไปในระยะเวลา 5-10 ปี เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่มากขึ้นที่สามารถผลิตได้ถึงวันละ 2.3 แสน ลบ.ม. ขณะที่การใช้น้ำอยู่ที่ 2 แสน ลบ.ม.ต่อวัน โดยจากปัจจัยดังกล่าวทางการประปาจะลดปริมาณการสูบน้ำดิบจาก 5 อ่างเก็บน้ำหลักเดิม เพื่อสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน จึงมั่นใจว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำจะหมดไปอย่างแน่นอน